TRUSTED BY 
10,000+ Students
10+ Leading Organizations & Universities
TRUSTED BY 
10,000+ Students
10+ Leading Organizations & Universities
TRUSTED BY 
10,000+ Students
10+ Leading Organizations & Universities

MENU TOEIC Reading

ENG ME UP CHANNEL

Share :

Chapter 28

Work Hard ไม่สำคัญเท่า Work Smart ฝึกฝนให้เป๊ะ ตามแนวทางข้อสอบ TOEIC

     รู้ไส้รู้พุงข้อสอบ TOEIC กันไปหมดแล้ว ขั้นตอนก็เป๊ะ เทคนิคก็ชัด และหลายๆ คน ตอนนี้ไฟลุกท่วม เผลอๆ ลุกไปซื้อหนังสือมาฝึกกันแล้วใช่ไหมล่ะ เอาล่ะครับ หนังสือแต่ละสำนักพิมพ์ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน อันไหนแม่นอันไหนมั่ว อาจารย์โจจะมาแนะนำในบทความท้ายๆ แต่ ณ นาทีนี้ ลองไปเช็คความพร้อมกันผ่าน Full Simulation Exam 100 ข้อเต็ม ของอาจารย์โจกันดีกว่า พร้อมแล้วนะ … ลุย!!

     เมื่อเข้าใจรูปแบบการออกข้อสอบ มีขั้นตอนการเตรียมตัว กลยุทธ์ และเทคนิคเฉพาะในแต่ละ Part ชัดเจน … ก็ได้เวลาลองฝึกวิทยายุทธ์กันแล้ว แต่การเลือกสังเวียนในการฝึกก็สำคัญนะครับ คือต้องเหมาะสมกับสงครามนั้นๆ ด้วย พูดง่ายๆ คือเราต้องเลือกแบบฝึกหัดให้เหมาะสมกับข้อสอบ TOEIC ในปัจจุบันมากที่สุด จะได้ไม่ Shocked เวลาเจอข้อสอบจริง อันนี้หลายๆ คน เจอแบบฝึกหัดที่ง่ายเกินไป หรือ จะได้ไม่เหวอ คือแบบฝึกหัดอาจยากพอหรือยากกว่าข้อสอบจริงด้วยซ้ำแต่มันคนละแนวอ่ะ พอไปเจอของจริงก็เหวอสิครับ เตรียมตัวฟรี

     เอางี้ครับ เพื่อเป็นการ Test เบื้องต้น ว่าเอ๊ะ ตอนนี้เราพร้อมจริงป่าว ลองทำข้อสอบของอาจารย์โจ ในส่วน Reading ครบทั้ง 100 ข้อ ผ่านระบบ Online กันดู จับเวลาจริง ความยากเทียบเท่าครั้งยากในข้อสอบ TOEIC ดูครับ จะได้ไม่โป๊ะ!!! …. พร้อมแล้ว Click ที่นี่เลยครับ

     เหมือนที่สัญญาครับ ว่าอาจารย์โจจะมาวิเคราะห์ให้ว่า หนังสือตามท้องตลาด เล่มไหน มีข้อดีข้อด้อยอย่างไร เพราะ TOEIC ตอนนี้ แพร่หลายสุดๆ ใครๆ ก็ต้องสอบ จึงหาพวกแบบฝึกหัดตัวอย่างข้อสอบได้เต็มไปหมด แค่ Search Google หรือ แค่เข้าร้านหนังสือ เยอะจนไม่รู้จะหยิบเล่มไหนดีเลยบ่ะ (ปล. ต้องบอกก่อนนะครับ ไม่ได้ค่า Review ใดๆ ทั้งสิ้น ตามเนื้อผ้าจริงๆ)

     แต่ถ้าใครมาเจอบทความนี้เป็นบทความแรก อยากให้ย้อนไปอ่าน ไปดู ไปฟัง ตั้งแต่เริ่มต้นก่อนนะครับ การฝึกเยอะๆ ยังไงก็ดีครับ แต่จะดีกว่า ถ้าเรามีเส้นทางชัดเจนในการเดิน อย่างน้อยคือประหยัดเวลาฝึก เหมือนเราเจอทางลัด ไม่พอยังมีคนนำทางอีก … ที่สำคัญคือ ถ้าเรามีขั้นตอนชัดเจน และฝึกไปตาม Step ความยาก เราจะเข้าใจตนเองระหว่างทางว่าจุดอ่อนเราคืออะไร คำถามต่อมาคือเราตั้งใจขจัดจุดอ่อนนั้นๆ มากแค่ไหน ตรงนี้ใครๆ ก็ช่วยเราไม่ได้ นอกจากความตั้งใจของคุณ และของผม ที่เตรียมชุดฝึกเสริมไว้มากมาย ในแบบฝึกหัดเสริม เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งเป็นระดับขึ้นไปกว่า 3000 ข้อ (ไม่ต้องหาหนังสือเพิ่มเองแล้วมั้งครับ แค่ในคอร์สก็คุ้มจัด และหัวหมุนแล้ว) และจากที่อาจารย์เจอมา การที่เราฝึกเยอะๆ แต่ไม่มีทิศทาง ใช้แต่ความคุ้นชิน สุดท้ายคะแนนก็ไม่นิ่ง เหวี่ยงขึ้นลงอยู่ดี ก็เราไม่ทราบจุดอ่อนที่แท้จริง เราไม่ได้ปรับหนิ ชุดไหนเรารู้เยอะ ก็ได้เยอะ ชุดไหนเราไม่ถนัด คะแนนก็ร่วงลงไป ทำไปเรื่อยๆ แบบนี้ ผมว่าสุดท้ายมันท้อนะ

     เอาล่ะ จะเริ่มแล้วนะ … โดยอาจารย์โจจะเน้นไปที่สำนักพิมพ์ของต่างประเทศนะครับ ซึ่งแต่ละเล่ม จุดเด่น จุดด้อย จุดแข็ง จุดอ่อน มีแตกต่างกันไป ดังนั้น บางคนอ่อนด้านการฟังอาจเหมาะกับเล่มหนึ่งมากกว่าอีกคน ในขณะที่คนที่อ่อนด้านไวยากรณ์ อาจเหมาะกับอีกเล่มหนึ่งมากกว่าก็เป็นได้

1. Barron
หลายคนรู้จัก และหาซื้อง่าย

  • Listening Part >> ค่อนข้างเร็วและรัว จนบางครั้งคิดว่า เร็วเกินไปป่าว แต่ถามว่าดีไหม … ก็ดีนะครับ สำหรับใครที่อยากลองว่า ถ้าข้อสอบการฟังมาเร็วๆ คุณจะพอฟังได้ไหม พอจะจับคำได้ทันไหม
  • Reading Part >> เรียกว่าอยู่ในระดับ Basic – Pre-intermediate ครับ ก็จะดีสำหรับการรื้อฟื้นและเริ่มต้นฝึกครับ ดังนั้นถ้าทำเล่มนี้ได้คะแนนเยอะ ก็อย่าเพิ่งวางใจล่ะ

2. Pearson Longman
ไม่ค่อยแพร่หลาย หาซื้อยากหน่อย
ถือว่าพัฒนาเราได้เป็นระบบดีครับ เนื่องจากมี 3 เล่ม คือ Basic , Intermediate , Advanced

  • Basic >> เล่มนี้ พื้นฐ้านนนน พื้นฐาน คือตั้งแต่เริ่มต้นจริงๆ
  • Intermediate >> เล่มนี้แจ๋วจริง เหมาะกับทุกระดับ
  • Listening Part >> เรื่องสำเนียงและความไวค่อนข้างจะฟังง่าย จนง่ายเกินไปหรือปล่าวไม่แน่ใจ (ถ้าจับมาเขย่าแล้วหาร 2 กับ Barron คงจะดี) แต่ถ้าพูดถึงระดับเนื้อหาและหลุมพรางถือว่าสมเหตุสมผล
  • Reading >> ก็ครอบคลุมนะ แต่อาจง่ายกว่าของจริงอยู่สัก 20% ตามความคิดเห็นส่วนตัว

3. Oxford
ชื่อนี้บอกสรรพคุณได้อยู่แล้วล่ะ
ทั้ง Reading & Listening Part จัดว่ายาก อยู่ในระดับข้อสอบ TOEIC จริงมากๆ ทั้ง ความยาก คำศัพท์ สำเนียง เรียกได้ว่าต้องหามาทำกันให้ได้ก่อนสอบ แต่อาจยังไม่เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น

4. Cambridge
เช่นกัน คงไม่ต้องบรรยายถึงความโดดเด้งดาวล้านดวงอะไรกันมากมาย แนวๆ Oxford เลยครับ ยากดี บางทีอาจมียากกว่าข้อสอบจริงนิดๆ ด้วย ดังนั้น ไว้ท้ายๆ ค่อยหยิบมานะ

5. Collins
หายากหน่อย แต่มันเจ๋ง
อาจไม่ยากเท่า Oxford หรือ Cambridge แต่ในความธรรมดากับแทรกบทให้เรียนรู้ได้มากมายเลยทีเดียว และเทคนิคก็เยอะด้วย (แต่ไม่เท่าอาจารย์โจนะ 5555555)

     จบสิ้นการ Review เอ้ย การพูดถึงข้อดีข้อเสียของแต่ละเล่ม … ถึงตรงนี้หลายคนบอกจะไปเสียตังทำไม ใน Internet เยอะแยะ … ใช่ครับ ไม่เถียง แต่ที่อาจารย์โจเจอมาหลาย Website ทั้งเฉลยผิด บางที่แบบฝึกหัดก็ประหลาดๆ จนเหมือนแต่งมาสัก 20 ปีไม่เคยปรับปรุง ดังนั้นผมว่า เลือกฝากอนาคตให้ถูกที่ดีกว่านะครับ

     ดังนั้น ถ้าได้ขั้นตอนและกลยุทธ์ในบทความของอาจารย์โจ (blog.englishmeup.com) ที่ผมท้าเลยว่าละเอียดที่สุดในปฐพีแล้ว จนทีมงานด่าแล้ว ว่าโอ๊ะ เด็กไม่ต้องเสียเงินมาเรียนแล้ว ซึ่งผมก็ยินดีนะครับ ถ้าไม่ต้องเสียเงินแล้วคุณจะมีโอกาสเทียบเท่าคนอื่นๆ ผมยินดีจริงๆ

     … แต่เอาล่ะ ถ้าใครไม่อยากเสียเงินเป็นหมื่นๆ ซื้อหนังสือที่ว่ามา แถมคำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษอีก หรืออ่านบทความผมมาจนจบแล้วไว้ใจกัน ก็ฝากอนาคตไว้กับผมได้นะครับ ก็รวมทุกกลยุทธ์จากประสบการณ์การเตรียมตัว การสอบ การสอน การเจอนักเรียนประเภทต่างๆ ใน 15 ปี ที่อยู่กับ TOEIC มา

     …ผมยินดีอ้าแขนรับสู่อ้อมกอดเหี่ยวๆ เอ้ย อุ่นๆ ที่นี่นะค้าบบบบ ^O^ (เข้ามาปรึกษากันได้ฟรีๆ ครับ LINE: @englishmeup … ผมดูแลนักเรียนทุกคน และขออนุญาต แนะนำตามความจริง ไม่เพ้อฝันนะคับ ไม่ดุ แต่ขอตรงไปตรงมาครับ ^^)

How to Use ENG ME UP Blog

Play Video

เนื่องจากเนื้อหา “Mini Book” เตรียมสอบ TOEIC มีความต่อเนื่องกัน อาจารย์แนะนำให้ศึกษาตามลำดับ โดยเริ่มจาก Chapter 1
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดครับ

เนื่องจากเนื้อหา “Mini Book” เตรียมสอบ TOEIC มีความต่อเนื่องกัน อาจารย์แนะนำให้ศึกษาตามลำดับ โดยเริ่มจาก Chapter 1
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดครับ