Article 5
เจาะลึกการเขียน IELTS Writing Task 2 อย่างไรให้โดนใจกรรมการ พิชิต IELTS 6.5+
เวลาที่ถามนักเรียกว่าในบรรดาข้อสอบ IELTS ทั้ง 4 ส่วน (ฟัง, พูด, อ่าน, เขียน) คิดว่าอะไรยากสุด ก็มักจะได้ยิน (แถมด้วยเสียงโอดครวญ) ว่า
“พาร์ต Writing เลยค่ะ สอบกี่ครั้งๆ ก็ทำไม่ไหว ในเมื่อให้เวลามาแค่ 1 ชั่วโมงแล้วให้เขียนเรียงความถึงตั้ง 2 เรื่องใครจะไปทำทัน
แถมสองเรื่องนั้นก็ได้ไม่เหมือนกันซะอีก อันแรกให้ภาพหรือกราฟ…อืม อะไรเนี่ย หรือว่าแท่ง หรือภาพอะไรก็ไม่รู้ตัวเลขเยอะแยะไปหมด ช่างมันเถอะค่ะหนูก็แยกไม่ออก แล้วก็ขอให้เขียนบรรยายภาพที่เห็น อาจารย์ขา ใครจะเขียนไหว
นี่ยังไม่พอนะคะให้หัวข้อมาเขียนอีกอัน คราวนี้มีแต่ปัญหาสังคมอะไรก็ไม่รู้ แล้วหนูจะเขียนอะไรดีเนี่ยแค่คิดว่าจะเขียนอะไรก็กินเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว สุดท้ายเลยเขียนตามสัญชาตญาณก็แล้วกัน และคะแนนก็ถือว่าเป็นผลพลอยได้ ฮือ”
เสียงคร่ำครวญเหล่านี้ จะฟังกี่ครั้งๆ ก็ยังรู้สึก #ร้องไห้หนักมาก ร่วมไปกับนักเรียนค่ะ โดยส่วนตัวแล้วก็เชื่อว่าพาร์ตการเขียนเป็นปัญหาที่ทุกคนหนักใจที่สุด เพราะยากและไม่รู้จะเขียนอะไร เมื่อทำไม่ได้เลยฉุดคะแนน ปล่อยไปง่ายๆ ซะงั้น
แต่…ช้าก่อนค่ะ ในเมื่อทุกคน(หลง)เข้ามาในบล็อกนี้แล้ว ก็อย่าเพิ่งกดปุ่มริมขวาบนเพื่อปิดนะคะ รีบเข้ามาเก็บวิชากัน เพราะในวันนี้อาจารย์นุ้ยได้ถือมีดมาพร้อมเสียบคนออกข้อสอบ เอ้ย! มาชำแหละทั้งในส่วนของตัวข้อสอบเอง รวมถึงเปิดเผยเทคนิคเพื่อให้ทุกคนที่แวะเวียนเข้ามาอ่านบล็อกนี้ได้เตรียมพร้อมเพื่อลงสนามจริงด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมค่ะดังนั้นเรามีแต่ของดีจะมอบให้นะคะ อ่านต่อกันเถอะ
You should spend about 40 minutes on this task.
Write about the following topic:
Beside a lot of advantages, some people believe that the Internet creates many problems. To what extent do you agree or disagree with this statement?
Write at least 250 words.
จะเห็นได้ว่าจะให้เวลามาทั้งหมดประมาณ 40 นาทีในการเขียน และกำหนดจำนวนคำขั้นต่ำที่ 250 คำค่ะ ทั้งนี้ เราควรเขียนทั้งหมด4-5 paragraphs ซึ่งเดี๋ยวมาดูรายละเอียดส่วนนี้กันในภายหลังนะคะแต่ตอนนี้เรามาดูประเภทของคำถามกันก่อนดีกว่าค่ะ
1. Agree or Disagree
เป็นการถามว่าเราเห็นด้วยมากหรือน้อยเพียงใดกับสถานการณ์ที่เขาให้มา เช่น
Beside a lot of advantages, some people believe that the Internet creates many problems.
นอกจากจะให้ประโยชน์แล้ว หลายคนก็เชื่อว่าอินเตอร์เน็ตมีข้อเสียมากมาย โดยคำที่จะบอกใบ้ว่าเป็นคำถามประเภทนี้ ก็คือคำว่า To what extent do you agree or disagree with this statement?ที่ลงท้ายคำถามนั่นเองค่ะ ซึ่งในการตอบเราจะตอบได้ทั้ง 3 แบบด้วยกัน
- strongly agree หมายความว่าเราตอบโดยการให้เหตุผลที่เห็นด้วย 2 เหตุผลเหตุผลละหนึ่งพารากราฟค่ะ
- strongly disagree ก็คือเราไม่เห็นด้วยกับคำถามที่เขาให้มาเลย การตอบก็จะเหมือนกับประเภทข้างบนคือตอบเหตุผลที่เราไม่เห็นด้วย เหตุผลละพารากราฟค่ะ
- partly agree คือเห็นด้วยกึ่งไม่เห็นด้วยค่ะ โดยการตอบจะเขียนสนับสนุน 1 paragraph และเขียนไม่เห็นด้วยอีก 1 paragraph ค่ะ
คำถามจะให้ความคิดเห็นที่แตกต่างกันต่อเหตุการณ์หรือสถานการณ์หนึ่งมาสองแง่มุม ยกตัวอย่างเช่น
Some people believe the aim of university education is to help graduates get better jobs. Others believe there are much wider benefits of university education for both individuals and society.
และก็จะมีโครงสร้างการตอบที่เฉพาะเจาะจงเป็นของตัวเองค่ะ ซึ่งถ้าเราตอบตามแพทเทิร์นที่นำมาให้ดูก็นอนรอรับคะแนนได้เลย
- Body 1 – พูดถึงแง่มุมที่ 1 พร้อมการขยาย
- Body 2 – พูดถึงแง่มุมที่ 2 พร้อมการขยาย
In my opinion,
Personally,
I personally believe that
For my part, it would be better that
เช่นเดียวกับคำถามประเภทอื่นๆ ที่จะโยนสถานการณ์มาให้ค่ะ แต่ Cause and Solution จะถามหาสาเหตุของปัญหารวมถึงแนวทางแก้ไข ยกตัวอย่างเช่น
In some countries the average weight of people is increasing and their levels of health and fitness are decreasing.
ในส่วนของการตอบคำถามประเภทนี้ โครงสร้างการตอบก็ไม่มีอะไรมากค่ะ ให้ตอบสาเหตุ1 paragraph แล้วตามด้วยทางแก้ปัญหาอีก 1 paragraph เท่านั้นเองค่ะ เห็นมั้ยว่าไม่มีอะไรยากเลย แค่ตอบให้ตรงคำถามและลำดับถูกต้องเท่านั้น
และนี่ก็คือคำถามสามประเภทหลักๆ ค่ะ ซึ่งจริงๆ แล้วก็ยังมีย่อยอีก ส่วนใครที่ยังงงๆ ว่าแล้วจะรู้ได้ไงว่าคำถามไหนเป็นแบบไหน คลิกได้ที่ชีตด้านล่างเลยค่ะ
อาจารย์ได้รวบรวมมาให้ทุกคนได้ลองดูคำถามทุกรูปแบบแล้วค่ะ (จะลองเขียนเลยก็ได้นะ 🙂 ) รวมถึงแพทเทิร์นในการตอบคำถามแต่ละประเภทด้วย ซึ่งจะมีประโยชน์มากๆ และไม่ทำให้เราเขียนตอบผิดแบบด้วย (แน่นอนว่ามีหลายประเภทก็ต้องมีการตอบหลายรูปแบบ แม้โครงสร้างใหญ่จะเหมือนกัน แต่ถ้าเราเขียนผิดแบบ ก็อาจทำให้คะแนนลดลงได้ค่ะ) รีบกดเซฟไว้ไปศึกษาก่อนได้เลย
ทั้งนี้ ในชั้นเรียนของเราจะมีการอธิบายโครงสร้างคำตอบสำหรับคำถามแต่ละประเภทโดยละเอียดค่ะ รับรองว่าเจาะลึกกันจนหลับตาก็สามารถเขียนออกมาเป็นเรื่องแบบสมบูรณ์ได้เลย แต่ใครที่ไม่ได้เป็นนักเรียนของเราก็ไม่ต้องน้อยใจไปนะคะ เพราะโพยโครงสร้างที่ปล่อยให้ดาวน์โหลดนี้ เป็นแบบที่สามารถศึกษาด้วยตนเองได้เลยค่ะ
นั่นสิคะ…แล้วกรรมการผู้ตรวจข้อสอบอยากเห็นอะไรจากเรา หลายคนอาจจะคิดว่าเขาถามอะไรมา เขาก็ต้องอยากเห็นคำตอบแบบนั้นถูกมั้ยคะ ดังนั้นถ้าเราตอบให้ตรงคำถามก็น่าจะเพียงพอแล้ว ไม่ยากเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่…อย่างที่รู้กันแล้วว่าข้อสอบ IELTS ไม่ใช่ข้อสอบธรรมดา ท่องไว้ว่ามันคือข้อสอบเทวดาค่ะ ดังนั้นถ้าเราแค่ตอบตรงคำถามมันยังไม่สาแก่ใจกรรมการ เพราะจริงๆแล้วสิ่งที่กรรมการอยากเห็นจากเราไม่ใช่แค่เรื่องของการตอบคำถามตรงไม่ตรงหรือไม่เท่านั้นแต่ยังเป็นทักษะเรื่องอื่นๆ อีกถึง 4 เรื่องหลักๆด้วยกันเลย งั้นมาดูกันเถอะค่ะว่าเขาวัดทักษะและความรู้อะไรจากการเขียนของเราบ้าง
Grammatical Range & Accuracy
ซึ่งในส่วนโครงสร้าง Grammar ที่สำคัญ ก็ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล อาจารย์โจเขาทำไว้ให้เรียน 10 บทความ คลิปประกอบตรึมกว่า 5 ชั่วโมง ไว้ที่นี่แล้วค่ะ https://blog.englishmeup.com/grammar
ทั้งนี้ ในแต่ละช่วงคะแนนก็จะมีการระบุอย่างชัดเจนว่าหากอยากได้คะแนนเท่านี้ต้องบรรลุวัตถุประสงค์ใดบ้าง ซึ่งทางหน่วยงานที่รับผิดชอบการสอบ IELTS เองก็ได้ทำ Band Descriptors หรือใบระบุวัตถุประสงค์ที่ต้องบรรลุในแต่ละช่วงคะแนนมาด้วย นักเรียนสามารถดาวน์โหลดมาเพื่อเป็นเป้าหมายที่เราต้องพิชิตได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างเลยค่ะ มีประโยชน์มากๆ
ดาวน์โหลดกันเรียบร้อยแล้ว มาลองนั่งอ่านเสร็จปุ๊บ ทุกคนอาจจะเริ่มร้องเพลงเจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย ฉันทำอะไรให้เธอเคืองขุ่นใส่กรรมการโทษฐานที่โหดเหลือเกิน (เพลงก็ดักแก่มากกก 555แน่ะ เห็นนะว่าแอบร้องตาม เกิดทันล่ะสิ) ดังนั้น ถ้ารู้ว่าเขาอยากวัดเราถึงขนาดนี้ เราก็รีบเตรียมตัวกันดีกว่าค่ะ เรื่องแรกสุดที่ต้องรีบรู้กันโดยด่วนก็คือเรื่องของโครงสร้างค่ะ ตามมาดูกันเลย