Article 4
Grammar เริศ Essay รุ่ง
คะแนน IELTS Writing 6.5 อยู่แค่เอื้อม
แกรมม่าร์เป็นเรื่องที่หลอกหลอนเราไม่ว่าจะสอบ part อะไรก็ตาม แต่ที่ปรากฏใน Task 1 นั้น อาจารย์อยากเน้นให้เขียนประโยคง่ายๆ เข้าไว้ เขียนเป็น Simple Sentence หรืออาจจะมี compound sentence บ้างก็ได้ แต่ขอแค่อย่าขยายเยอะค่ะ โดยที่หนึ่งประโยคบอกเนื้อหาหนึ่งจุดข้อมูลเท่านั้น เพื่อไม่ให้กรรมการงงว่าอยู่ตรงไหนของกราฟแล้ว และเพื่อให้ตัวเองมั่นใจว่าเขียนตอบครบทุกจุดสำคัญจริงๆ โดยที่ข้อมูลในแต่ละจุดนั้นไม่มาตีกันเองนั่นเองค่ะ
ทีนี้มาดูกันดีกว่าว่า grammar ที่สำคัญมีอะไรบ้าง
นอกจากเรื่องของ Part of Speech แล้ว ก็ลากยาวไปถึงเรื่องของโครงสร้างเลย สิ่งที่อยากให้ระลึกไว้ก็คือหนึ่งประโยคมี V แท้ได้แค่ 1 ตัว และถ้าอยากมีมากกว่า 1 ตัวต้องมี connectors ค่ะ ใช้หน้าที่ของคำให้ถูกกับตำแหน่งนะคะ เช่น N. เป็นประธานและเป็นกรรมได้ รวมถึงจะอยู่หลัง preposition หลัง article และหลังคำแสดงความเป็นเจ้าของ เป็นต้น ซึ่ง! อยากบอกว่าใน Task 1 จะมีเรื่องที่คนมักสับสนอยู่ค่ะ เนื่องจากคือมีคำศัพท์ที่แสดงการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลบางตัวสามารถเป็นได้ทั้ง N และ V เช่น คำว่า increase ดังนั้นเวลาจะขยายคำนี้เพื่อบอกดีกรีของการขึ้นลงว่ามากหรือน้อย ก็ต้องดูด้วยว่าอยากให้ increase เป็น part of speech ใด
- หากเป็น N. สิ่งที่มาขยายก็คือ adj. – a gradual increase แถมยังเป็น N นับได้ด้วย ดังนั้นอย่าลืมใส่ article ค่ะ
- แต่ หากเป็น V สิ่งที่มาขยายก็คือ adv. – increase gradually แบบนี้ค่ะ อย่าลืมบอกด้วยนะว่า subject คืออะไร ใส่ verb ลงไปด้วย
ยกตัวอย่างเช่น There is a dramatic decrease in the Service Industry production.
เช่น The decrease in the Service Industry production is dramatic.
ปกติแล้วเรื่องของ Tense ที่ปรากฏใน Task 2 จะไม่หลากหลายนัก หากเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ก็มักเขียนเป็นรูปอดีตเช่นกัน ทั้งนี้ ควรมีคำบอกเวลาในอดีต (Time Marker) ด้วยค่ะ
เช่น In 1945, only 30% of women completed their secondary education and 1% went on to a first degree.
และหากเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ แนะนำให้ใช้ present perfect ได้ค่ะ
สุดท้าย ถ้าเป็นการอธิบายขั้นตอนทั่วไปให้ใช้ present simple ได้เลยเพราะถือว่าเราพูดเรื่องทั่วไปค่ะ
ส่วนใหญ่จะใช้ passive ในการเขียนบรรยาย Diagram หรือ Flowchart เนื่องจากเป็นการบรรยายขั้นตอนของกระบวนนการบางอย่าง และไม่มีความจำเป็นจะต้องบอกว่าใครเป็นผู้ผลิตเพราะรู้กันอยู่แล้ว เช่น
There are four main stages in the production of plastic paper clips from this small factory. Two of these stages involve actual preparation of the clips, while the other two consist of quality control before the clips are sent out from the factory to the retailers to be sold to the public.
To begin with, molten plastic is poured into three different moulds depending on the colour required; the colours are red, blue and yellow. Once these clips emerge from the moulds a quality control machine checks them for strength. Unsatisfactory clips are rejected. In the third stage in the process the clips are stored by hand into two groups, mixed and single colours. When this stage is complete the groups are checked a second time to ensure that the colour mixtures are divided correctly into single colours and mixed colour batches. Finally, the clips are packed and dispatched to the markets.
ลองอ่านดูแล้วจะเห็นว่ามีการใช้ passive อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นเรื่องของการผลิต ซึ่งการผลิตเนี่ยเราก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นคนในโรงงานผลิตสินค้าขึ้นมา จึงไม่จำเป็นจะต้องพูดว่า factory staff หรือ employees ผลิตอย่างนู้นอย่างนี้ขึ้น แต่ให้ใช้ว่าสินค้าถูกผลิตและถูกส่งต่อไปได้เลยค่ะ
เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้ เชื่อว่านักเรียนคงเริ่มร้อนวิชาและอยากทดลองเขียน Task 1 กันแล้วใช่มั้ยคะ แล้วจะไปหาโจทย์จากไหนดี…ไม่ต้องคิดนานเลยค่ะ เพราะอาจารย์ได้เตรียมโจทย์มาให้นักเรียนได้ลองฝึกมือกันแล้วค่ะ เข้าไปในเว็บไซต์นี้ได้ทันที มีหลายสิบโจทย์ แถมยังมี model essay ให้ลองดูเปรียบเทียบกับคำตอบของเราด้วยค่ะ
เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้ เชื่อว่านักเรียนคงเริ่มร้อนวิชาและอยากทดลองเขียน Task 1 กันแล้วใช่มั้ยคะ แล้วจะไปหาโจทย์จากไหนดี…ไม่ต้องคิดนานเลยค่ะ เพราะอาจารย์ได้เตรียมโจทย์มาให้นักเรียนได้ลองฝึกมือกันแล้วค่ะ มีหลายสิบโจทย์ แถมยังมี model essay ให้ลองดูเปรียบเทียบกับคำตอบของเราด้วยค่ะ เข้าไปในเว็บไซต์นี้ได้ทันที Academic Writing Samples Task_1
- ท่องศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นลงของข้อมูลค่ะ อยากแนะนำให้อ่านข่าวเศรษฐกิจกันจากสำนักข่าวต่างประเทศอย่าง Bloomberg, BBC, CNN เป็นต้น เพื่อพัฒนาคำศัพท์ให้ได้มากที่สุด
- ต่อมาคือการลองดูกราฟ แล้วลองวิเคราะห์ข้อมูลว่าอะไรเหมือนกัน อะไรแตกต่างกัน แล้วจัดกลุ่มข้อมูล ก่อนเปรียบเทียบข้อมูล โดยให้ลองฝึกจากการดูกราฟทั่วๆไปค่ะ
สมมุติว่าเราเห็นกราฟอะไรก็ตามที่มีเส้นขึ้นลง หรือจะเป็นกราฟแท่ง พายชาร์ต ให้เริ่มฝึกสังเกตว่ากราฟนี้พูดถึงอะไรโดยดูที่หัวข้อ ดูข้อมูลที่เขานำมาเทียบ ตามมาด้วยจุดสูงสุด จุดต่ำสุด จุดผันผวนของข้อมูล และเริ่มทำการเปรียบเทียบว่าข้อมูลใดอยู่กลุ่มเดียวกับข้อมูลใด ฝึกคิดไปเช่นนี้บ่อยๆ จะทำให้ความคิดเราลื่นไหลมากขึ้นในยามที่ต้องเขียนข้อสอบจริงๆ ค่ะ
- สุดท้ายนี้ อ่านให้เยอะ เขียนให้เยอะ และลองฝึกการเขียนในห้องจริงๆ โดยเวลาเขียนให้จับเวลา 20 นาทีด้วย และใช้เวลาในการวางแผนสัก 3-4 นาที เพื่อให้เขียนลื่น ไม่ออกนอกประเด็น และครอบคลุมทุกข้อมูลสำคัญ ประโยชน์ของการจับเวลาคือจะทำให้เราอยู่ในสภาวะกดดันคล้ายของจริงค่ะ เพื่อที่เข้าไปทำจริงปุ๊บจะได้ไม่ช็อกกันก่อน 🙂
และสำหรับใครที่กลัวว่าเขียนไปแล้วจะรู้ได้ไงว่าถูกไม่ถูก ยังไม่มั่นใจว่าพื้นฐานที่มีในตอนนี้จะเพียงพอต่อการสอบหรือไม่ ทางโรงเรียนก็มีหลักสูตร IELTS Mastery Full Package เพื่อตอบสนองความต้องการของทุกคน โดยมีชั่วโมงการเรียนหลัก 60 ชั่วโมง ครอบคลุมการสอบทั้งสี่ส่วน ฟังพูดอ่านเขียน แบบที่เรียนจบแล้วสามารถสอบได้ทันที 🙂
รวมถึงเนื้อหาเสริมอีก 50 ชั่วโมง เพื่อเสริมประสิทธิภาพในทุกทักษะอย่างถึงขีดสุด ยังไม่พอ ยังมี 2 Software ให้ใช้เพิ่มเติม เพื่อพัฒนาคำศัพท์และทักษะการฟังควบคู่ไปกับเนื้อหาในคอร์สอีกด้วย … จึงกล้าพูดว่าเป็นคอร์ส “รับรองผล 6.5+” ที่มีเครื่องมือรองรับจริง ไม่ใช่แค่บอกให้เรียนซ้ำ ยัง ยังไม่พอ ยังมีโปรแกรมตรวจเรียงความเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักเรียนทุกๆ คนด้วยค่ะ
ตรวจสอบ Learning Process ได้จาก Link นี้เลยค่ะ
www.englishmeup.com/learningprocess
และก่อนจะจากกันไป อยากทิ้งไว้ว่า
Workhard, Dream big and Never give up
อย่ายอมแพ้แม้ชีวิตจะผกผันดังกราฟในข้อสอบ
หากเราฝึกฝนเยอะๆ มั่นใจได้เลยว่ายังไงทักษะของเรา
ก็จะ go up significantly แน่นอน
อาจารย์นุ้ยขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ สู้ๆ นะ 🙂
