Article 11
เมื่อใดก็ตามที่ได้ยินชื่อ Reading แน่นอนว่าทุกคนจะต้องคิดถึงบทความยาวๆ ที่มีแต่ศัพท์ที่อ่านแล้ว…เอิ่ม แปลว่าไรเหรอ? แถมด้วยโจทย์เยอะๆที่ยิ่งเห็นก็ยิ่งสยอง แบบที่ไม่แน่ใจว่าจะทำให้เสร็จอย่างไรดี และยิ่งเป็นการอ่านของข้อสอบ IELTS อันสุดหินแล้ว แน่นอนความสยองก็ยิ่งเพิ่มเป็นสองเท่า แต่ทีนี้ค่ะ บล็อกนี้ไม่ได้เขียนขึ้นมาเพื่อข่มขู่เด็กนะคะ อย่าเพิ่งกดปิดกัน ใจเย็นๆ นะตัว รีบอ่านต่อกันก่อนๆ
ในเมื่อข้อสอบมันชวนสยอง ก็อยากให้ลองเปิดใจเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบนี้นะคะ ซึ่งวันนี้บล็อกเราก็จะมาเปิดเผยทุกซอกทุกมุมของข้อสอบ Reading ใน IELTS รวมถึงเทคนิคการเตรียมตัวดีๆ ค่ะและเมื่ออ่านจบ อาจารย์นุ้ยก็รับประกันค่ะว่าทุกคนจะมองข้อสอบ IELTS เปลี่ยนไป จากสยองกลายเป็นสนุกแน่นอน 🙂
มาพูดถึงลักษณะคร่าวๆ ของข้อสอบก่อนดีกว่าว่าสิ่งที่ทุกคนต้องพบเวลาเข้าห้องสอบไปปุ๊บก็คือ 3 บทความ ซึ่งในแต่ละบทความ ความยาวก็จะไล่เลี่ยกัน ทว่าสิ่งที่แตกต่างกันก็คือความยากของเนื้อหาค่ะ โดยที่บทความแรกจะง่ายที่สุด เรียงไปหาบทความที่สามซึ่งยากที่สุดค่ะ ทั้งหมดนี้จะใช้เวลาในการสอบทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง ดังนั้นอย่าลืมจัดสรรเวลาให้ดีด้วยนะคะ
ทำให้ได้กี่ข้อถึงจะถึงฝั่งฝัน
อยากให้ลองดูกันสักนิดสำหรับใครที่อยากได้ 6.5 เป็นต้นไป (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคะแนนในฝันของทุกคนเนาะ) ว่าข้อสอบ 40 ข้อเนี่ยควรจะทำให้ได้สัก 27 ถึง 29 ข้อค่ะ จึงหมายความว่าเรามีสิทธิ์ผิดได้ 10 กว่าข้อเท่านั้น หลายคนอาจจะเริ่ม…หูย10 กว่าข้อเองจริงดิ ไม่ไหวอ่ะ มองงี้ดีกว่านะ ว่าเรามีสิทธิ์ผิดได้ตั้ง 10 ข้อแน่ะ (คิดในแง่บวก แม้ความจริงจะโหดร้าย 555) ซึ่งเอาเข้าจริงแล้ว การที่จะผิดให้ได้น้อยกว่า 10 กว่าข้อนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใดค่ะ ถ้าเรามีเทคนิคที่จะช่วยให้สามารถหาคำตอบได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ว่าบางทีจะอ่านแล้วก็ไม่เข้าใจร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม
และก่อนหน้าที่จะไปลงไปดูรูปแบบข้อสอบ มาดูคะแนนกันไว้แล้วลองตั้งเป้าดูว่าเราอยากได้สักเท่าไหร่ แนะนำให้มองตั้งแต่ 6.5 ขึ้นมานะ อย่ามองน้อยกว่านั้น 😀 อย่าลืมค่ะ ในเรื่องของข้อสอบแล้วเราควรจะเป็นคนหวังสูงเข้าไว้ปกติแล้ว ยิ่งสูงยิ่งหนาวแต่ของเรายิ่งสูงยิ่งดีค่ะ