TRUSTED BY 
10,000+ Students
10+ Leading Organizations & Universities
TRUSTED BY 
10,000+ Students
10+ Leading Organizations & Universities
TRUSTED BY 
10,000+ Students
10+ Leading Organizations & Universities

MENU TOEIC Listening

ENG ME UP CHANNEL

Share :

Chapter 32

เตรียมหูให้พร้อม ก่อนโกยคะแนน TOEIC Listening

     เทคนิคเทพแค่ไหน มีวิธีเลี่ยงโจทย์ลวงมากเพียงใด ก็ไม่สัมฤทธิ์ผล ในเมื่ออีกครึ่งหนึ่งคือ Hard Skill บทความนี้จะรวบรวมทั้งวิธีการฝึกการฟังในสไตล์อาจารย์โจ และยังมี Website และ Application อื่นๆ มาฝากกันอย่างจุใจ เรียกว่า กายพร้อม ใจพร้อม หูก็พร้อมสำหรับรับเทคนิค Listening อย่างแน่นอน

     อย่างที่ได้เกริ่นไปครับว่าปัจจัยความสำเร็จ 2 ประเด็น ที่จะทำให้คุณทำคะแนน TOEIC listening ได้สูงๆ หรือเต็มไปเลยนั้น อยู่ที่ ทักษะการฟัง (Listening Skill) และ เทคนิคจับประเด็นเพื่อเพิ่ม Concentration ในระหว่างทำข้อสอบ ซึ่งจะลงลึกในบทความต่อๆ ไปครับ

     แน่นอนว่า ทักษะการฟัง เป็น Hard skill ต้องใช้เวลาในการฝึกฝนครับ ดังนั้นหากใครมีทักษะการฟังที่ดี หรือหูกระดิกอยู่แล้ว ก็จะเพิ่มคะแนน Part นี้ได้เร็วมากๆ ครับ ขอแค่เข้าใจ Pattern การออกข้อสอบ กลยุทธ์จับประเด็น และฝึกฝนจนคุ้นชินกับขั้นตอนเหล่านั้นจนเป็นธรรมชาตินั่นเอง

     ในบทความนี้ อาจารย์โจก็เลยจะเน้นให้เป็นบทความแนะนำฝึกหู พัฒนาทักษะการฟัง เพื่อพร้อมในการรับเทคนิคต่อไปนะครับ

     English is All Around ภาษาอังกฤษอยู่รอบตัวเราครับ จะเก่งได้ต้องไม่กลัว และนำตัวเราเข้าไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ใช้ภาษาอังกฤษให้ได้มากที่สุดครับ สำหรับทักษะการฟังโดยทั่วไป อยากให้เริ่มจากสิ่งที่ชอบครับ เพราะเราจะได้ไม่ฝืนกับมัน ชอบดูหนัง ดู Series ฟังข่าว อะไรก็ได้ครับล้วนให้ประโยชน์ เริ่มจากสิ่งที่ชอบก่อน บางคนบอกว่าให้ฝึกด้วยการดูหนังฝรั่งและปิด subtitle ให้หมด แล้วลองฟังดู แต่อาจารย์โจอยากให้เริ่มเป็น Step คือ ประเมินจุดเริ่มต้นจากตัวเราก่อน ว่าเราพร้อมในระดับไหน ไม่งั้นลองคิดดู นั่งดูหนังเรื่องนึงแล้วไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่นานก็เบื่อครับ แถมไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยอีกด้วย ดังนั้น อาจฝึกโดยค่อยๆ ใส่ระดับของความเข้าใจลงไปเรื่อยๆ ซึ่งอาจารย์มองว่า เราอาจฝึกเป็น 2 ระดับ

1. ระดับเบื้องต้น 

     ในระดับนี้ ให้เราฝึกให้เราคุ้นกับสำเนียง ความเร็ว การเน้นหนักเบาของการพูด ดังนั้น ในช่วงแรกๆ ถ้าทักษะการฟังเรายังไม่ดีนัก แนะนำให้เปิด Subtitle แต่เป็น English Subtitle นะครับ แล้วเน้นการฟังนะครับ ไม่ใช่เน้นการอ่านจนไม่ได้ฟัง แล้วส่วนไหนฟังไม่ค่อยออก ค่อยกด pause และลองมาเทียบกับ Subtitle สิ่งที่เราจะได้เรียนรู้ คือ

(a) ใน 1 ประโยค เค้าเน้นเสียงหนักตรงไหน แบ่งวรรคตอนยังไง (ซึ่งส่วนใหญ่ก็ตรงส่วนหลักในโครงสร้างประโยคนั่นแหละ Subject หลัก/ Verb/ Conjunction)

(b) คำศัพท์ที่เราฟังไม่ออก บางครั้งเกิดจากเราไม่ได้ออกเสียงเหมือนเจ้าของภาษา คือถ้าเราอ่านเนี่ยเรารู้ว่านี่คือคำว่าอะไร แต่พอฟัง ไหงมันไม่เป็นแบบนั้น และข้อสอบ TOEIC ก็มีการแต่ง Choice หลอกในลักษณะเลียนเสียงมากทีเดียวครับ เช่น

  • Debt
  • Cruel
  • Receipt
  • Poem
  • Around
  • Allow
  • Dessert

     อาจารย์โจมี Application มาฝากด้วยครับ ให้เราได้ลองทดสอบตังเองกันว่าที่เราได้ยินเสียงเป็นคำไหนกันแน่ ลองเลือกกันให้ถูก มีให้คะแนนและจับเวลาด้วยครับ … แต่อาจารย์เล่นบน IPhone จึงไม่แน่ใจว่า Android มีเหมือนกันไหมนะครับ โหลดกันมาเลยครับ

English Ear Game

     ซึ่งในระดับเบื้องต้นนี้ ก็เหมือนที่หลายๆ คนบอกแหละครับ เริ่มฟังก็อย่าเพิ่งไปแคร์พวก Grammar มากนัก พูดก็เหมือนกัน แต่ผมย้ำว่าระดับเบื้องต้นนะครับ เพราะถ้าคุณอยากเข้าใจเจตนาการสื่อสารได้จริงๆ การเข้าใจในระดับโครงสร้าง (Grammar) เลี่ยงไม่ได้หรอกครับ

2. ระดับลึก 

     เมื่อเราเริ่มพอฟังออก พอพูดได้ เราก็ค่อยเอา Grammar Structure มาใส่ในการฟังมากขึ้น ซึ่งหากเราโครงสร้างดี เรารู้ว่าในประโยคส่วนหลักคือส่วนไหนและส่วนไหนคือส่วนขยาย เวลาเราพูดหรือฟัง เราก็เน้นในจุดนั้นได้มากขึ้นครับ โดยเฉพาะเวลาเราฟังอะไรยาวๆ อย่างเราฟังข่าว สุดท้ายเราแค่เอามาเล่าให้เพื่อนฟังได้ว่าเกิดอะไรขึ้นโดยรวม ไม่ได้ต้องมาเล่ารายละเอียดทุกอย่างจริงไหมครับ เพราะเอาเข้าจริงๆ ทุกประโยคที่เราพูดออกไป มันคือ 1 Tense ที่เราเลือกมาใช้แล้วครับ เราเปลี่ยน verb แท้ ไปตาม Tense เจตนาการสื่อสารก็เปลี่ยนไปแล้วจริงไหมครับ (บทความพร้อมวิดีโอเต็มเรื่อง Tense: Verb แท้ พระเอกของเรื่อง กับความสำเร็จขั้นแรก) ดังนั้นหากเราต้องการสื่อสารให้เข้าใจแบบถึงเจตนา การใช้ Grammar ให้ถูกต้องก็มีความจำเป็นอย่างมากครับ เช่น

     สรุปคือ ฝึกกว้างๆจากสิ่งที่ชอบ หรือเวลาน้อยแล้วก็ Scope down มาให้เหมาะกับ TOEIC ก็เรา ฟังเรื่องทั่วๆ ไปในชีวิตประจำวันไม่ได้วิชาการไรมากมายแบบพวก TOEFL/ IETLS ดังนั้น ก็เลือกพวก series ที่เป็นวิถีชีวิตทั่วไปก็ดีครับ ไม่ใช่ไปเลือกซะวิทยาศาสตร์จ๋าเลย ก็ดูยากไป ณ จุดนี้ หรือแทนที่จะฟังเรื่องเล่าเช้านี้ ตอนเช้าๆ ลองฟังสำนักข่าวต่างประเทศดูบ้างก็ได้ครับ

     … โดยสำหรับนักเรียนของอาจารย์โจ ก็จะถูกย้ำนักย้ำหนา ว่าก่อนมาเจอกันใน Listening Technique ต้องเตรียมหูมาก่อนนะ โดยเราก็จะเจาะให้ตรงกับลักษณะของการสอบ TOEIC ไปเลย เราเรียกโปรแกรมนี้ว่า Listening Muscle Build up ครับ โดยเราจะแบ่งเป็นความยาก 4 ระดับ เน้นการฟัง Conversation หรือ Monologue ทั่วๆ ไป โดย Level แรกนักเรียนจะต้องฟังและเลือก choice มาเติมให้เหมือนกับที่ได้ยิน พอ Level ที่สองก็ยังเติมเหมือนที่ได้ยินครับ แต่เราตัด Choice ออกแล้วนะ Level ที่ 3 เราเริ่มพร้อมละ ก็จะเป็นแนวข้อสอบจริงละ คือฟังแล้วต้องเข้าใจและเลือก choice ที่สรุปเรื่องได้ถูกต้อง ไม่ได้จับแต่เสียงเหมือนเดิมแล้วนะ ส่วน Level ที่ 4 อาจเกินไปจาก TOEIC ไปสู่ IELTS ละ คือฟังเข้าใจสรุปเรื่องได้ แต่ไม่มี Choice ให้เลือกนะ เติมเองเลย

     อย่า … อย่าเพิ่งบ่น ว่าหนู่ล่ะ ใช่สิ! หนูไม่ได้ไปเรียนกับอาจารย์หนิ แล้วหนูจะฝึกกับอะไร อาจารย์บอกแล้วว่า Blog นี้ หากพร้อมขวนขวายเพิ่มเติมก็สามารถตามฝันได้เหมือนกัน แต่ถ้าอยากได้ทางลัดก็มาเจอกัน 555 เอาล่ะครับ อาจารย์มี Free Source ที่น่าสนใจมาฝากทุกคน ฝึกได้จุใจเริ่มครับ ไม่เสียเงิน และไม่เสียเวลา เพราะมันคือความรู้ติดตัวเราไปตลอดครับ

เว็บนี้แบ่งแบบฝึกหัดให้เราตั้งแต่ระดับง่าย กลาง ไปจนถึงยาก ดังนั้นเราสามารถระบุได้ว่าเราอยากเริ่มฝึกตั้งแต่ตรงไหน และมีการพัฒนากี่เปอร์เซ็นต์แล้ว นอกจากนี้ยังมีลิงค์ที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีก เช่น dailyesl (หัวข้อทั่วไปสำหรับผู้เริ่มต้น), ezslang (ภาษาแสลงพร้อมคำอธิบาย) และ trainyouraccent ฝึกการออกเสียงแบบอเมริกัน

แหล่งข้อมูลและบทสัมภาษณ์จากผู้คนทั่วทุกมุมโลก มีแบ่งระดับให้เรียบร้อยตั้งแต่ 1 – 7 (Low beginner ถึง Advance) และมีหัวข้อคำถามที่น่าสนใจให้เลือก
มีบทสนทนาให้ฟัง รวมถึงการอธิบายคำศัพท์ พร้อม Script ให้อ่านไปพร้อมๆ กับฟังด้วย ตอนจบก็มีบททดสอบตรวจความเข้าใจของเราให้ลองทำ เสียงอ่านจะค่อนข้างเร็ว

มีเรื่องสั้นให้ฟังกว่า 365 เรื่อง พร้อมบททดสอบให้ลองทำ เสียงในเว็บไซต์นี้อ่านค่อนข้างช้าทำให้เข้าใจง่าย และมี Script ให้อ่านไปพร้อมๆ กัน

เหมาะสำหรับมือใหม่หัดพูด เพื่อฝึกบทสนทนาง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน
ตัวอย่างบทสนทนาหัวข้อต่างๆ ที่พบเจอในชีวิตประจำวัน
แหล่งข้อมูลสำหรับคนที่จะเตรียมสอบ TOEFL/ TOEIC โดยเฉพาะ
เว็บไซต์ที่อาสาสมัครที่เป็น native speakers จะอ่านหนังสือให้เราฟังฟรีๆ แถมคุณภาพเสียงก็ดีใช้ได้เลยทีเดียว
สำหรับหัดฟังสำเนียงอเมริกันที่อ่านหนังสือเสียง โดยมีภาพการ์ตูนและเสียงเอฟเฟคประกอบ

เอาล่ะเตรียมหูกันพร้อมแล้ว อีกครึ่งที่เหลือก็ไปต่อที่ Technique ในแต่ละส่วนกันเล้ย จะรออะไรล่ะ!!

How to Use ENG ME UP Blog

Play Video

เนื่องจากเนื้อหา “Mini Book” เตรียมสอบ TOEIC มีความต่อเนื่องกัน อาจารย์แนะนำให้ศึกษาตามลำดับ โดยเริ่มจาก Chapter 1
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดครับ

เนื่องจากเนื้อหา “Mini Book” เตรียมสอบ TOEIC มีความต่อเนื่องกัน อาจารย์แนะนำให้ศึกษาตามลำดับ โดยเริ่มจาก Chapter 1
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดครับ