Article 10
เผยวิธีติดอาวุธ เพิ่มคะแนนการเขียน essay
IELTS, TOEFL ทุกรูปแบบ
แกรมม่าร์สำคัญก็รู้ไปแล้ว โครงสร้างก็รู้ไปแล้ว คำศัพท์ก็รู้ไปแล้ว นี่รู้จนเหมือนได้มานั่งเรียนในห้องด้วยกันแล้วนะเนี่ย ฮา แล้วยังจะมีติดอาวุธอะไรอีก จริงๆ เรื่องของอาวุธที่ว่านี่ฟังดูเหมือนออกรบ โดยส่วนตัวแล้วมองว่าการสอบ IELTS ก็คือการออกรบจริงๆ นั่นละค่ะ แต่สนามนี้ไม่มีเสียชีวิต มีแค่เสียเงิน ทว่าค่าสอบก็แพงอยู่นะ กินบุฟเฟต์ได้หลายมื้อเลย ดังนั้น จะสอบเล่นขำๆ ก็คงไม่ได้ มิเช่นนั้นอาจต้อง #ร้องไห้หนักมาก เพื่อคะแนนออกแล้วเราไม่พอใจ ดังนั้นการเตรียมตัวให้พร้อมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก มาดูกันค่ะว่าจะต้องเตรียมอาวุธอะไรบ้างสำหรับการลงสนามในครั้งนี้
ฝึกคิดให้เป็นอังกฤษ หมายความว่าเจอเรื่องอะไรรอบตัว ก็ให้คิดเป็นภาษาอังกฤษค่ะ เจอรถเดินผ่าน เจอแมววิ่งมา กินกับข้าวอร่อย เมื่อคืนนอนฝันดี๊ดีก็ให้คิดเป็นภาษาอังกฤษค่ะ และลองเขียนออกมาเป็นเรื่องราวนะคะ ทีนี้เชื่อว่าทุกคนมี Facebook อยู่แล้ว เราก็อาจจะเปลี่ยนจากหน้าที่หลักคือเอาไว้ส่องคนนั้นเป็นคนนี้ จากเอาไว้บ่นไปเรื่อย เปลี่ยนให้เป็นเครื่องมือเรียนภาษาอังกฤษของเราค่ะ โดยอาจจะเริ่มจากตั้งสเตตัสบน Facebook เป็นภาษาอังกฤษ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วเรามักจะย้อนกลับไปอ่านเวลามันมี notification เด้งขึ้นมาว่าคนกดไลค์ถูกมั้ยคะ ดังนั้น ก็จะทำให้เราซึมซับกับสิ่งที่เราเขียนเป็นภาษาอังกฤษโดยไม่รู้ตัว หรือถ้าอยากเขียนมากๆ เยอะๆ หน่อยก็ไปที่ twitter ได้ค่ะ ท่องไว้เลย คิดเป็น Eng เขียนเป็น Eng ชีวิตจะได้มี Engไว้ประดับค่ะ
สิ่งที่ Task 2 ต้องการคือการมโน ดูข่าวแล้วคิดถึงทางแก้ไข คิดถึงสาเหตุ หยิบจับอะไรให้คิดถึงที่มาที่ไป คิดถึงประโยชน์ของสิ่งนั้น (ช่วยในเรื่องคิด Topic Sentence) ยกตัวอย่างเช่นเห็นข่าวการประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ขึ้นมา เราก็อาจจะคิดว่าสิ่งนั้นมันมีประโยชน์หรือมีผลเสียอย่างไร แล้วถ้าเป็นเรา เราจะยกตัวอย่างใดมาเพื่อให้เหตุผลเพิ่มเติม โดยเหตุผลนั้นๆ ต้องเป็นตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมนะคะ ทั้งนี้ ทำแบบนี้บ่อยๆ จะช่วยในการเขียน Supporting Ideas ให้ออกมาอย่างสมเหตุสมผลมากขึ้นค่ะ
ท่องไว้เสมอนะคะว่า You are what you read. คุณคือสิ่งที่คุณอ่าน ถ้าเราอ่าน essay มากๆ เราก็จะซึมซับสิ่งที่เราอ่าน เหมือนฟองน้ำซึมซับน้ำค่ะ การหา essay อ่านก็ไม่ยากเลยนะคะ เพียงแค่ลองเซิร์ชกูเกิลหาหัวข้อessayแล้วตามด้วยคำว่า IELTS เพื่อหา Essay ที่เป็นของการสอบ IELTS นะคะ แล้วลองเลือกอ่านหัวข้อตามที่ตนสนใจค่ะ
แต่…จะอ่านอย่างเดียวก็ไม่ได้ค่ะ สิ่งที่เราต้องฝึกด้วยคืออ่าน…เพื่อให้ได้โครงสร้างที่ชัดเจนค่ะ ซึ่งจะเสริมในทักษะการเขียนมากๆ ทีนี้ เรามาลองหัดแยกโครงสร้างของ essay ดูนะคะ โดยลองแยกว่านี่เป็น Thesis Statement นี่เป็นส่วนขยายเพื่อบอกความคิดเห็น นี่เป็นส่วนขยายเพื่อบอกความขัดแย้ง นี่เป็น Topic Sentence เป็นต้น ตัวอย่างที่อาจารย์นุ้ยเคยฝึกและแนะนำนักเรียนในทุกคลาสให้ฝึกจะเป็นลักษณะนี้ค่ะ
- Introduction
- General Statement (ประโยคเกริ่น)
- The number of visitors and businessmen who are travelling abroad has been increasing markedly in recent years.
- General Statement (ประโยคเกริ่น)
- Thesis Statement (ใจความหลักของ essay)
- (มี conjunctive adverb : however)
- Understanding the culture of local people brings many benefits to all types of visitorsas well as problems for those who do not understand a new culture.
- Body 1
- Topic Sentence (ใจความหลักของเนื้อหาส่วนที่ 1)
- (no sensible person can deny) the importance of breaking down barriers between countries
- Supporting ideas (สิ่งที่นำมาขยาย Topic Sentence)
- People from different lands can socialise effectively and relate emotionally regardless of their race and religion.
- If they take time to learn languages before they travel and to find out about where they have going before the travel.
- Result
- As a result
- The tension between people from different backgrounds would be melted.
ทำแบบนี้บ่อยๆ ฝึกทุกวันจะทำให้เราสังเกตเห็น
- โครงสร้างอย่างชัดเจน
- การเขียนแบบถูกประเด็นไม่ออกทะเล
- ไอเดียดีๆ เวลาเขียนตัวอย่างใน body ค่ะ
ซึ่งถ้าใคร แต่เราใจดีค่ะ บล็อกนี้มีแต่ให้ ดังนั้นอาจารย์นุ้ยเองก็ได้สรรหาเว็บไซต์รวบรวมตัวอย่าง essays ของ task 2 รวมทั้งแพทเทิร์นของการแยกส่วน IELTS มาให้เอาไปชำแหละกันแล้วค่ะ
หนึ่งในปัญหาหลักที่พบเวลาสอบจริงคือเขียนยังไงก็เขียนไม่ทัน โดยความยาวหากเป็นลายมือควรอยู่ที่ ¾ หรือเต็มหน้ากระดาษ เวลาฝึกเขียน Essay ให้ใช้มือเขียน ไม่ต้องใช้ยางลบลบเพราะจะทำให้ลนกว่าเดิม ขีดฆ่าทิ้งได้ทันทีเลยเพื่อเป็นการประหยัดเวลาค่ะ ความอึดของมือก็เป็นเรื่องสำคัญ ฝึกกล้ามเนื้อนิ้วไว้ตั้งแต่วันนี้ มีชัยในวันหน้านะคะ และที่บอกว่าให้ฝึกภายใน 25-30 นาที ก็เพราะว่าเราต้องเผื่อเวลาไว้สำหรับการแพลน Essay ด้วยค่ะ อย่าลืมนะคะ สำคัญมากๆ เลย
To sum up, ในท้ายสุดนี้ อาจารย์นุ้ยเชื่อมั่นว่าทุกคนที่อ่านบล็อกของเราจะได้รับความรู้ไปเป็นกระบุง แบบที่ขายได้หลายแสนทีเดียว แต่หากยังมีข้อสงสัยเพิ่มเติม รวมถึงอยากปูพื้นฐานที่จำเป็น และพัฒนาทักษะทั้งฟังพูดอ่านเขียนแบบครบทุกด้าน
อยากได้เทคนิค โครงสร้าง และวิธีที่จะทำให้คะแนนเราเพิ่มขึ้นดังใจหวัง ทางโรงเรียน ENG ME UP ก็ได้จัดเตรียมหลักสูตร IELTS Mastery Full Package ที่พร้อมจะเปิดเผยทุกมิติของการทำข้อสอบ IELTS แบบไม่มีกั๊ก และไต่ระดับโจทย์หลาย Level ความยาก ด้วยการเขียนสุดเข้มข้นถึง 30 ชั่วโมง การอ่าน การฟังและการพูดอีก 30 ชั่วโมง!
ยังไม่รวม เนื้อหาเสริม อีก 50 ชั่วโมง ซึ่งจะมีทั้ง แกรมม่าร์พื้นฐาน รวมถึงแกรมม่าร์เพิ่มเติมสำหรับการเขียน และคลังข้อสอบอีกมหาศาลที่จะได้ฝึกทำกันแบบ unlimited แบบที่จบคอร์สปุ๊บสามารถหลับตาทำข้อสอบได้ปั๊บ
นอกจากนี้แล้วก็ยังมี Software ท่องศัพท์ และ Essay Correction Program เพื่อให้นักเรียนได้เพิ่มประสิทธิภาพในการเขียนอย่างถึงขีดสุด เรียกได้ว่าคุ้มกันมากๆ เลย
ท้ายสุดแล้วจริงๆ อยากให้ทุกคน keep in mind ว่า Where there’s a will, there’s a way.ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น ไม่ต้องกลัวจะเขียนผิด ไม่ต้องคิดไม่ออก เพราะสิ่งที่น่ากลัวกว่าการเขียนผิดหรือการคือการไม่ได้ลองทำค่ะ และอาจารย์นุ้ยก็ขอเป็นกำลังใจให้นักเรียนทุกคน ถือดาบลงสมรภูมิการเขียนได้ และคว้าชัยและคะแนนที่ตัวเองหวังติดมือกลับมากันทุกคนเลยค่ะอวยพรทุกคนจากใจเลยสู้ๆนะคะ