Chapter 5
จะทำ 46 ข้อแรก ส่วน Reading Part ได้ดี ต้องเก่ง Grammar?
วิธีการดีและชัดเจนแค่ไหน แต่หากไร้ซึ่ง Input ที่ดี ก็ไม่มีประโยชน์ Grammar ต้องมี ต้องทวนกันแน่ๆ แต่แค่ไหนล่ะถึงจะพอ บทความนี้ไม่เพียงแต่ไล่เรียงถึงเนื้อหา Grammar ที่จำเป็นต่อการสอบ TOEIC เท่านั้น ยังนำเสนอ Brain Map ให้มอง Grammar ได้อย่างเป็นระบบ
แน่นอนจะทำข้อสอบวัด Structure ได้ดี สิ่งเริ่มแรกสุดคือเราต้องมี Input มี Knowledge ถึงตรงนี้ บางคนกำลังนั่งยิ้ม เพราะชั้นมั่นใจว่าชั้นเก่ง Grammar ในขณะที่บางคนก็กำลังนั่งยิ้ม แต่เป็นการนั่งยิ้มทั้งน้ำตา เพราะห่างหายจากมันมาตั้งแต่สมัยมัธยม (ห่างกันมากี่ปี ก็ลองคำนวณจากอายุตัวเองดูครับ อุ่ย!)
อย่างเพิ่งท้อ! เรามาให้ความกระจ่างคำว่า “เก่ง Grammar” กันก่อน คือบางคนอ่านมาเยอะ ท่องมาเยอะ เป็นเล่มๆ เลย เรียกว่ารายละเอียดนี้ได้หมด แต่! ลองให้มาทำข้อสอบของจริงดูก่อน อาจไม่ได้ดีไปกว่าก็ได้นะ เพราะคำว่า “เก่ง Grammar” ไม่ได้วัดว่าใครจำรายละเอียดได้มากกว่ากัน
อย่าลืมนะครับว่า TOEIC ย่อมาจาก Test of English for International Communication สำหรับการสื่อสารเป็นหลักครับ คือต้องใช้จริงได้ ดังนั้น “เก่ง Grammar” จึงควรแปลว่า เรากรองความรู้ (เยอะแยะปวดหัว ที่เรารู้สีกน่ะ) ให้ตกตะกอน ออกมาเป็นแผนผังความคิดที่สำคัญได้ดีแค่ไหน ซึ่งจะทำแบบนั้นได้ ก็ต้องมีวิธีการเรียนรู้ด้วยการเรียนเรียงตามลำดับความสำคัญของโครงสร้างภาษา ไม่ใช่ตามความยากง่ายของเนื้อหา
ดังนั้น นักเรียนของอาจารย์โจ จึงต้องทำ Level Test ก่อน เพื่อจะรู้ว่า ตอนนี้เราอยู่ ณ จุดไหน ยอมรับตัวเอง และปรับจูนความรู้เฉพาะที่จำเป็นให้ถึงระดับหรือใกล้กับระดับที่จะมาสามารถนำความรู้นั้นมาต่อยอดด้วยขั้นตอนที่ชัดเจนในการทำโจทย์เฉพาะ TOEIC (Algorithm) ในคาบเรียนที่ 1 นั่นเอง … อ่านมาถึงตรงนี้ ผมอยากให้ทุกคนมีความหวัง และหันไปคิดด้วยหน้าแบบนางร้ายในละครว่า “เอาล่ะ คนที่หัวเราะทั้งน้ำตาสุดท้ายต้องเป็นแก 555”
(ถ้ามีผลสอบเดิม สามารถใช้ผลสอบเดิมมาปรึกษาหรือวางแผนคอร์สเรียนกับอาจารย์โจโดยตรงได้เลยครับ ที่ Line : @englishmeup แต่ถ้าไม่เคยสอบมาก่อน ทาง ENG ME UP จะมี Level Test ให้ทำก่อนครับ โดยทุกท่านสามารถลองเข้าไปทำข้อสอบ Level Test ได้ที่ test.englishmeup.com)
ไม่ว่าจะเตรียมตัวสอบวัดผลทางภาษาตัวใดๆ CU-TEP, TOEIC, IELTS หรือTOEFL ก็ต้องมีทวนพื้นฐานทาง Grammar ทั้งนั้น จะใช้ทางตรง ทางอ้อม หรือถูกวัดผลในรูปแบบใด ยังไงก็คุ้มค่าที่จะทวน เพราะการแม่นในโครงสร้างทางภาษา เห็นภาพชัดเจน อาจไม่ต้องจำรายละเอียดได้ทุกส่วน ก็ช่วยเอาตัวรอดในแต่ละ Part ข้อสอบได้เป็นอย่างดี อย่างเช่น Reading Part ศัพท์ดีอย่างเดียว ก็โดนหลอกได้เยอะแยะ ถ้าไม่สามารถ Focus ได้อย่างแม่นยำ ส่วนไหนคือส่วนหลัก ส่วนไหนเป็นแค่ส่วนขยาย ซึ่งแน่นอน อ่านไปเรื่อยๆ แปลไปเรื่อย เข้าใจหมด แต่ทำข้อสอบภาพรวมพลาด แถมทำช้า ก็เค้าไม่ได้ให้เราอ่านเพื่อความเพลิดเพลิน แต่ต้องอ่านเพื่อเอาตัวรอดครับ โดยเฉพาะ TOEIC ที่เป็น Speed Test ซะด้วย หรือแม้แต่การทำข้อสอบในส่วน Listening ก็ยังสามารถใช้โครงสร้างทางภาษาในการจับเสียงหนักเบา เพื่อ Focus จุดที่เน้นหลักและรองได้ด้วยนะครับ ดังนั้น เตรียมทั้งที เริ่มจากฐานที่แน่นปึ้กก่อนดีกว่าครับ
ความสำคัญของการทวน Grammar ณ เวลาที่ต้องเตรียมสอบนี้ คงไม่ต้องนั่งท่องเป็นเล่มๆ หนาปึ้ก แบบสมัยเรียนนะครับ ก็ลองย้อนกันไปดูสิครับ ว่าเราเรียนกันมาเท่าไหร่ ท่องกันมาหนักแค่ไหน แล้วตอนนี้เป็นไง ดังนั้นไม่ต้องเยอะ เอาที่สำคัญ จำเป็น และเรา Map ออกมาเป็นภาพในหัวได้ ว่ามันเชื่อมโยงกันอย่างไร ทำไมต้องเรียนแต่ละเรื่องต่อเนื่องกันไปเป็นภาพใหญ่เรื่อยๆ ถ้านึกภาพตามยังไม่ออก อาจารย์มีตัวอย่าง Grammar Brain Map ให้ดู คลิกดูกันได้เลยครับ
อย่างน้อยพอจะมีแนวทางเจาะลงลึกแต่ละส่วนที่เรายังไม่คล่องนะครับ หรือใครอยากเรียนเต็มๆ 15 ชั่วโมง ก็มี Online ให้เรียนแล้วนะครับ (คลิกที่นี่ได้เลยครับ http://www.englishmeup.com/grammar/) ซึ่งสำหรับนักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนคอร์สเตรียมสอบ TOEIC Full Package รับรองผล 700+ ก็สามารถปรับพื้นฐาน Grammar ในส่วนนี้ ตามคำแนะนำจากผล Level Test ได้ฟรีเลยครับ
โดยเนื้อหา Grammar ที่ต้องได้เป็นเบื้องต้นสำหรับการเตรียมตัวสอบ TOEIC และเป็น Pre-Requirement สำหรับคอร์ส TOEIC มีดังนี้ครับ
- Tenses
- Word Form (Part of Speech)
- Agreement of Subject & Verb
- Non-Finite Verb (Participle/ Gerund/ Infinitive)
- Conjunction
