TRUSTED BY 
10,000+ Students
10+ Leading Organizations & Universities
TRUSTED BY 
10,000+ Students
10+ Leading Organizations & Universities
TRUSTED BY 
10,000+ Students
10+ Leading Organizations & Universities

IELTS Writing

ENG ME UP CHANNEL

Share :

Article 29

4 ปัจจัยเสริมและเทคนิคเตรียมตัว
เพื่อคะแนน IELTS Speaking ที่เยี่ยมยอด

( IELTS Speaking 6 )
Grammar เป็น Input ที่สำคัญมากๆ ในการนำไปใส่ใน Process และ Technique การทำคะแนน IELTS ในทุกพาร์ท ดังนั้น อาจารย์นุ้ย อยากให้นักเรียนได้เข้าไปอ่าน ไปทบทวน จาก 10 บทความเปลี่ยนทัศนคติต่อภาษาอังกฤษ โดยอาจารย์โจกันก่อนนะคะ https://blog.englishmeup.com/grammar

     1. หากไม่เข้าใจคำถาม ต้องรีบถามกรรมการ พยายามอย่าด้นต่อไปทั้งที่ไม่เข้าใจ เพราะกรรมการจะไม่ทราบเขาว่า เราไม่เข้าใจคำถามและท้ายสุดแล้วว่าเรายังกลับไปถ้าพี่ไม่เข้าใจออกทะเลแล้วตอบไม่ตรงประเด็นทำให้เสียคะแนนไปได้ตัวนั้นเนี่ยก็จะมีประโยค ที่ใช้ถามกรรมการว่า จริงๆแล้วถามอะไร เช่น

     Pardon me?
     Sorry. I’m afraid I didn’t catch that. Could you say that again?

     2. นางงามไว้ก่อน นางงามที่ว่าเนี่ยไม่ได้หมายความว่าให้ไปแต่งหญิงเดี๋ยวซื้อมงกุฏมาใส่นะคะ หมายความว่าจะต้องมีบุคลิกภาพที่ดี มีความมั่นใจ และสิ่งสำคัญคือต้องมี Eye Contact และอย่าลืมมองหน้ากรรมการด้วยนะคะ เพราะจะทำให้ดูเหมือนเราเอาใจใส่กับคำถาม และอยากจะคุยกับเขา แม้ใจจริงจะไม่ได้อยากคุยแต่ก็ตามอย่าลืมยิ้มด้วย เพราะอย่างน้อยเนี่ยถึงกรรมการจะให้คะแนนจากสิ่งที่เราพูด แต่ถ้าเรายิ้มทำเป็นส่งไมตรีให้ บางทีเค้าอาจจะมีคะแนนพิศวาสคะแนนจิตพิสัยเพิ่มให้ก็ได้ค่ะ อย่าว่าไป 555

     3. พูดให้คล่อง พูดให้คล่องไม่ได้หมายความว่าให้พูดเร็ว แต่พูดแล้วฟังเป็นธรรมชาติ ฟังดูลื่นไหลกรรมการสามารถทำความเข้าใจได้กับสิ่งที่พูด พยายามอย่าพูดเร็วนะคะ เพราะจะทำให้ลน ทำให้พูดผิด และทำให้พูดไม่ถึงเวลาที่กำหนด

     4. ที่สำคัญคือการเตรียมตัวเองให้พร้อม อย่างน้อยที่สุดนะคะ ไปก่อนเวลาอย่างน้อยชั่วโมงนึง เพื่อให้มีเวลาทำใจและสวดมนต์ จะได้ไม่จ่นเมื่อเข้าห้องสอบไปแล้ว ไม่มีความตื่นเต้นตกค้างอยู่จากการที่เราเตรียมตัวไม่พร้อมเอง คืนก่อนสอบก็นอนให้เยอะ แล้วตั้งสติให้ดี อย่าอัดโพยก่อนเข้าสอบแค่คืนเดียว แต่ควรอาศัยการฝึกพูดอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เราพูดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและพูดให้เป็นธรรมชาติด้วยนะคะ 🙂

เทคนิคสำคัญเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพูด

ดูซีรี่ส์ฝรั่ง

     การดูซีรี่ย์ฝรั่งเนี่ยนอกเหนือจากที่จะได้ความสนุกแล้ว เราจะยังได้สำเนียงด้วยค่ะ ลองฟังจังหวะจะโคนในการพูด จะเห็นได้ว่าการออกเสียงภาษาอังกฤษนั้นเหมือนคลื่น ดังนั้นพยามฟังและดูบ่อยๆ จะช่วยได้มาก และนอกจากนี้ เราก็จะได้คำศัพท์พี่หลากหลาย และเป็นคำศัพท์ที่อยู่นอกเหนือจากหนังสือเรียนบทสนทนาเบื้องต้นตามที่วางขายทั่วไป อารมณ์กู๊ดมอร์นิ่งฮาวอาร์ยู ซึ่งไม่สามารถนำมาใช้ตอบได้ในข้อสอบการพูด

     และสำหรับคำถามว่า แล้วจะดูเรื่องไหนดี อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลนะคะ อาจจะเลือกเรื่องที่ดูอาจจะดูแล้วสบายๆ หน่อยก็ได้ หรือแนวสืบสวน หรือโบราณก็ได้ แต่ถ้าเราอยากได้สำนวนการพูดยุคปัจจุบัน ก็ให้ดูซีรี่ย์ที่มีเนื้อหาเป็นปัจจุบัน ซึ่งก็มีให้เลือกหลากหลาย เช่น Glee หรือ ถ้าชอบแบบแฟนตาซีมีกลิ่นอายเทพนิยายก็แนะนำเรื่อง Once upon a Time ค่ะ

     ส่วนหนังฝรั่งก็มีให้เลือกหลายเรื่อง เผื่อว่าใครดูซีรี่ย์แล้วกลัวว่าจะติดจนลืมเตรียมตัวอ่านหนังสือเพื่อสอบ หลักการก็เหมือนกันนั่นคือดูแล้วปิดซับไม่ว่าจะซับไทยหรือซับอิ๊ง เนื่องจากตอนนี้เราต้องการฝึกพูด เมื่อตัวละครพูดจบแล้ว 1 ประโยคให้เรากด pause แล้วพูดตามโดยเลียนแบบให้คล้ายที่สุด สมมุติว่าเราฟังไม่รู้เรื่องก็จริง แต่อย่างน้อยก็ขอให้ออกเสียงตามได้ค่ะ ฝึกแบบนี้บ่อยๆ เราจะได้ทั้งสำเนียงและสำนวน

ดูอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ

     สมมติดูคลิปสอนภาษาใน YouTube เราก็ pause แล้วลองออกเสียงให้ใกล้เคียงกับประโยคตั้งต้นในคลิปมากที่สุด ไม่ต้องอาย อยากบอกว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่เล่นใหญ่ค่ะ ดังนั้นต้องหัดพูดถึงจะออกเสียงได้ดี

     ทีนี้นะคะ ในคลิป YouTube เนี่ย มีการอัดวิดีโอจำลองการสอบมาให้ดูโดย keyword ที่เราจะใส่ลงไปเพื่อค้นหา คือ IELTS Speaking แล้วเลือกได้เลยค่ะว่าอยากดูคลิปใด

ฟัง website

     ซึ่งในตอนนี้ก็เปิดกว้างมากๆ และที่อยากแนะนำพิเศษก็คือ Engvid และ Ted ซึ่งเว็บไซต์แรกจะรวมเทคนิคการทำข้อสอบ IELTS มากมายโดยมาเป็นในรูปแบบของวิดีโอ รวมถึงข้อสอบSpeaking

     ส่วนเว็บไซต์ที่ 2 เป็นเว็บไซต์สำหรับการฟังสุนทรพจน์โดยบุคคลมีชื่อเสียง และจะเป็นการพูดในหัวข้อสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงความรู้ในศาสตร์ต่างๆ ที่ จะช่วยในเรื่องของสำเนียงและจังหวะจะโคน หากเราฟังบ่อยๆ เราจะพอจับจังหวะการพูดของเจ้าของภาษาได้ และช่วยในแง่ของคำศัพท์ เนื่องจากว่าเป็นการพูดความรู้จากสาขาวิชาต่างๆ ดังนั้นสิ่งที่เราจะได้ก็คือคำศัพท์จากบทต่างๆ ที่จะทำให้เราทำตอบคำถามในส่วนที่ 3 ได้ดีขึ้นค่ะ

ฝึกพูดคนเดียว

     แนะนำให้ทำหน้ากระจกแบบเกมซิมส์ (รู้นะว่าเล่นกัน เพราะอาจารย์ก็เคยเล่นเหมือนกัน) เพราะอะไร…ก็เพราะถ้าเราพูดๆ ไป บางทีไม่เห็นหน้าตัวเอง ก็จะไม่รู้ว่าท่าทางของตัวเองเป็นอย่างไร เรื่องท่าทางก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องวางมาดนะ ไม่ใช่แบบนั้น ยิ้มให้กระจกมากๆและสะกดจิตตัวเองว่าฉันมีความสุขกับการพูด… ฉันมีความสุขกับการพูด ทำแบบนี้สัก 1 เดือนก่อนสอบ รับรองว่าพอเดินเข้าห้องไปปุ๊บ สิ่งแรกที่เราทำก็คือยิ้มให้กรรมการเลย กรรมการจะเป็นไงก็ช่างเขาค่ะ แต่เราอาศัยยิ้มสยามไว้ก่อน อย่างน้อยก็เป็นการสร้างบุคลิกภาพและเรียกความมั่นใจวิธีหนึ่งค่ะ

ฟังก์ชั่น enable dictation

     หากเป็นสาวกแอปเปิ้ล จะมีฟังก์ชั่น enable dictation หรือการพูดแล้วให้เครื่องพิมพ์ตามคำบอกของเรา (เป็นฟังก์ชั่นที่ล้ำมากกก) หากเราพูดประโยคใด แล้วเครื่องฟังเสียงของเราออก เครื่องก็จะพิมพ์คำตามที่เราอ่านได้หมด แสดงว่าเราออกเสียงถูกต้องแล้ว

     แต่หากยังไม่ได้ ให้ลองเข้าเว็บไซต์ oxford dictionaries แล้วค้นหาคำที่เราออกเสียงไม่ถูก ตรงหน้าความหมายจะมีรูปลำโพงเล็กๆ ให้คลิกเพื่อฟังการออกเสียงของเขา แล้วลองออกเสียงตาม จะช่วยเรื่องของการออกพยัญชนะให้ชัดเจน รวมถึงช่วยในส่วนของ Stress หรือการเน้นพยางค์ต่างๆ ในคำเช่นเดียวกันค่ะ (ซึ่ง Software ท่องศัพท์ WORD ME UP ของทางสถาบัน ก็ออกเสียงได้ด้วยนะคะ ไม่อยากจะโม้ อิอิ)

     สุดท้ายนี้ อยากบอกว่า Practice makes perfect. การฝึกนั้นทำให้ฝันเป็นจริง และหากใครมีข้อสงสัยว่าอืม…อ่านๆ มานี่ก็ยังไม่พร้อมพูดเลย ไม่มีครูฝรั่งที่จะมาช่วยฟังและช่วยเป็นหางเรือเพื่อตบให้เราไม่ออกทะเลเวลาตอบคำถาม

     อยากบอกว่าในหลักสูตรก็มีอาจารย์ชาวต่างชาติที่แสนใจดี และพร้อมจะจับจูงนักเรียนไปสู่คะแนนเป้าหมายในการสอบ IELTS ค่ะ รวมถึงเทคนิคดีๆ และคำศัพท์ซึ่งเกี่ยวกับการพูดมากมายที่พร้อมจะให้ทุกคนได้ฝึกกัน

     และก็ขออวยพรให้ทุกคนโชคดี มีชัยในการสอบ พูดคล่องปรื๋อยิ่งกว่าน้ำมันหล่อลื่นเลยนะคะ เอาใจช่วยทุกคนค่า Good Luck!

How to Use ENG ME UP Blog

Play Video

เนื่องจากเนื้อหา “Mini Book” เตรียมสอบ IELTS มีความต่อเนื่องกัน อาจารย์แนะนำให้ศึกษาตามลำดับ โดยเริ่มจาก Chapter 1
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดครับ

เนื่องจากเนื้อหา “Mini Book” เตรียมสอบ IELTS มีความต่อเนื่องกัน อาจารย์แนะนำให้ศึกษาตามลำดับ โดยเริ่มจาก Chapter 1
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดครับ