Chapter 14
Checklist แก้ไขจุดบกพร่อง … ความพยายามที่ไม่สูญเปล่า
รู้เขากันมาอย่างดีละ คือรู้จักข้อสอบ และจุดหลอก จุดลวง ทั้งหมด อย่าลืมรู้เรา ประเมินตนเอง ในแต่ละขั้นตอนก่อนขึ้นโจทย์ใน level สูงขึ้น ยอมรับความผิดพลาด แยกประเภทความผิดพลาด แล้วค่อยๆ ปรับ ค่อยๆ แก้อย่างเป็นระบบ รับรองเลยว่า Part นี้ คะแนนจะขึ้นอย่างมั่นคง และไม่ว่าเจอโจทย์ Grammar แบบไหน เราก็จะไม่กลัวอีกเลย
เข้าใจข้อสอบอย่างดี มีวิธีการที่ดี ไม่พอแน่นอน เพราะภาษาอังกฤษ ไม่ได้วัด Knowledge แต่วัด skill ครับ ดังนั้น ฝึกอย่างมีระบบ วิธีการทีชัดเจนย่อมทำให้เราเข้าใจผู้ออกข้อสอบ และการฝึกโจทย์มากขึ้น ตามลำดับความยากย่อมทำให้เรารู้จุดอ่อนตัวเอง
….. สิ่งสำคัญที่สุดหลังจากนี้ คือ เราใส่ใจจะแก้จุดอ่อนเรามากแค่ไหน คือบางคนทำโจทย์เยอะจริงครับ แต่ไม่เคยทบทวนตัวเองเลยว่าทำไมผิด ตรวจคะแนนแล้วทำชุดต่อไป อาจารย์จึงมัก Categorize โจทย์เสมอ ว่าโจทย์แต่ละข้อเป็นระดับไหน Serious มากน้อยแค่ไหนหากผิด
ดังนั้นลองทำตามก็ได้นะครับ ลองเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของเรา และโน๊ตใส่ Weakness Sheet โดยให้ระบุ Page No. & Question No. ไว้ด้วย จะได้กลับไปหาได้เจอภายหลัง ส่วนความผิดพลาด เราอาจ List มาเป็น 3 ความผิดพลาดครับ
1. Method
หลายๆ ครั้ง วิธีการเรายังไม่แม่น และบ่อยครั้งที่เรากลับไปใช้ความเคยชินในการคิด ทำให้ใช้เวลามากขึ้น และบ่อยครั้ง แทนที่เราจะได้คำตอบมาในระยะเวลาสั้น และไปทำข้อต่อไป เรากลับต้องไปเห็น Choice ที่เขาต้องการหลอก ทำให้เราไขว้เขวในที่สุด วิธีแก้ ขีดเขียนเยอะๆ ค่อยๆ แยก S/ V และแบ่งประโยคเป็นท่อนๆ
ความผิดที่ผมถือว่า serious น้อยลงมา ทุกอย่างมีทิศทางที่ดี แต่ผิดเพราะ เนื้อหา Grammar ยังไม่แน่น ดังนั้น กลับไปทวนเป็นเรื่องๆ แล้ว Remark ไว้
ผิดแบบนี้ คือที่ผมเกริ่นไปครับ ว่าเจ็บแล้วจำ คือ โจทย์ก็ต้องมีข้อที่ตั้งใจหลอกเอาคะแนนเราทิ้งไปบ้าง มีลูกเล่นต่างๆ ซึ่งจุดนี้ต้องใช้ประสบการณ์ครับ และ ณ จุดนี้ เราก็อาศัยประสบการณ์จากการทำโจทย์เนี่ยแหละ โน๊ตใน Remark ลงไปเลยครับ
เมื่อทราบความผิดพลาด ก็ค่อยๆ แก้กันไป ส่วนนี้สำคัญ ที่เราต้องช่วยกันนะครับ หลักสูตรออกแบบและ Categorize โจทย์ไว้เป็น Level ความยาก และฝึกแบบถึกๆ เกิน 3000 ข้อ เอาสิ ใครให้เยอะกว่านี้มะ
ดังนั้น ก่อนจะข้ามไป Level ต่อไป ก็ควรสำรวจตัวเอง และใช้แบบฝึกหัดเสริมและเช็คกับเนื้อหาที่จัดทำให้เพิ่มเติม จะได้ไม่ผูกกันไปใน Level ที่ยากขึ้น และเมื่อเราไต่ไปถึง Level สูงสุด ด้วยขั้นตอนที่แม่นเป๊ะ และจุดอ่อนที่เหลือน้อยที่สุด
เชื่อสิครับ ว่าไม่ว่าจะเจอโจทย์รูปแบบไหน เราก็พร้อมที่จะสร้าง Base คะแนนที่ดี และคะแนนเราจะไม่แกว่งอีกเลย หลังจากนั้นก็เหลือแค่ประสบการณ์ในข้อคะแนน Bonus สำหรับทำคะแนนแบบสูงๆ กันเท่านั้นแหละครับ โย่ว!! อย่าลืมนะครับ เป้าหมายเราคือ ต้องเข้าใจโจทย์ว่าอยู่ระดับไหน และกลยุทธ์ควรเป็นอย่างไร