Chapter 7
3 Keys จุดเริ่มต้นพิชิตข้อสอบ TOEIC ส่วน Sentence Completion 46 ข้อ
ข้อสอบโหดแล้วไง ใครกลัว วิธีการดี ขั้นตอนชัดเจนซะอย่าง … 3 คาถา ตั้งรับข้อสอบวัด Structure ทุกรูปแบบ ขออย่าแปล ฝึกแบ่งประโยคเป็นท่อนๆ เน้นมองเป็นส่วนๆ และทำตามลำดับความสำคัญตาม Algorithm อดทนขุดควมเคยชินมาปรับให้เป็นระบบ แล้วสุดท้ายคุณจะใช้คำว่าใช้ sense ตอบ ได้อย่างแม่นยำและเป๊ะเวอ่ร์
ในเมื่อที่ทราบไปแล้วตอนต้นว่า 46 ข้อนี้ แม่นอย่างเดียวไม่พอ ต้องไวด้วย … อาจารย์โจให้คาถาไว้ 3 ข้อ เป็นคาถาในความสำเร็จของ Part นี้เลยก็ว่าได้ครับ
ข้อที่ 1 … Don’t Translate ห้ามแปลครับ คือห้ามแปลทั้งประโยคนะครับ ถ้าเมื่อไหร่คุณทำ Part นี้ โดยการแปลแล้วล่ะก็ จาก Grammar Part จะข้ามไปเป็นส่วนหนึ่งของ Reading Part การอ่านจริงๆ ทันที เพราะต้องกังวลศัพท์อีกมากมาย ปัญหาที่ตามมาคือ คุณจะ Scope มิติที่จะคิดไม่ได้เลย มีหลายมุมมองเหลือเกิน ถ้าต้องเอาเรื่องความหมายมาเกี่ยวตั้งแต่ต้น ดังนั้นปัญหาที่สองที่ตามมาแน่นอนคือ จะทำไม่ทันเอา
ข้อที่ 2 … Sentence Separation ฝึกแบ่งประโยคยาวๆ ให้เป็นท่อนๆ ให้ดีครับ ลองคิดดูนะครับ ถ้าเราอ่านทีเดียวทั้งประโยค สิ่งที่จะตามมาคือ เสียเวลาอีกแล้วครับ สุดท้ายก็ทำไม่ทัน ดังนั้นหากแบ่งประโยคดีๆ เราจะมองเฉพาะใน Block เล็กๆ แถวๆ ที่ขีดเส้นใต้ไว้เท่านั้นครับ ทำให้มิติในการคิดน้อยลงอีกมาก และลดความสะเพร่าได้อีกเยอะด้วยเช่นกัน รวมถึงบางข้อถ้าคิดอย่างมีภูมิรู้นี่เราไม่รู้หรอก แต่เราใช้หลักกั้น Block แล้วคิดตัด Choice เอาได้ง่ายๆ เลยนะ มีประโยชน์ขนาดนั้นเชียวเหรอ ไว้เดี๋ยวเรามาลองพิสูจน์กันในบทความต่อๆ ไป กันครับ
ข้อที่ 3 … Priority Focus ทำตามลำดับความสำคัญนะครับ การออกข้อสอบที่เป็นมาตรฐานระดับโลกอย่าง TOEIC มีรูปแบบการออกที่แน่นอน นั่นคือ Focus ตามลำดับความสำคัญของโครงสร้างทางภาษาด้วยเช่นกัน ส่วนนี้เราจะมาต่อ 4 Jigsaw หลัก ในบทความต่อไปๆ ซึ่ง 4 Jigsaw นี้เปรียบเสมือนขั้นตอนการคิดอย่างเป็นระบบเป็นขั้นตอน (Algorithm) เป็นขั้นตอนที่ชัดเจนในการทำทุกๆ ข้อสอบ และมี % การออกข้อสอบสูงต่ำตามลำดับลงมา เมื่อมีขั้นตอนการคิดที่ชัดเจน จะทำให้ผู้ฝึกสามารถแยกแยะข้อสอบได้ชัดเจนครับ ว่าข้อสอบแต่ละข้ออยู่ในระดับความยากอย่างไร บางข้อ แค่ Jigsaw ส่วนแรก ก็ได้คำตอบแล้ว บางข้อต้องอาศัย Jigsaw ตัวที่ 2-4 เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งก็จะเฉลี่ยเวลาในการทำไปแต่ละข้อ บางข้อใช้เวลาไม่ถึง 5 วินาที คำตอบก็ออก บางข้อเกือบนาทีกว่าจะได้คำตอบ ก็ต้องเฉลี่ยๆ กันไป ให้บรรลุเป้าหมาย เฉลี่ยข้อละ 30 วินาทีของเราให้ได้ ดังนั้น เมื่อขั้นตอนชัดเจน และโจทย์ถูกแบ่งตามระดับ ตาม Level ความยาก เมื่อฝึกไปจนชำนาญนอกจากจะแม่นยำ รวดเร็ว ยังสามารถแยกแยะโจทย์ เรียกว่ารู้ทันคนออกไปหมดและกำหนดกลยุทธ์การจัดการกับข้อสอบข้อนั้นๆ ได้อย่างชาญฉลาด และไม่ผิดพลาดในส่วนที่ไม่ควรจะผิดนั่นคือคะแนนในส่วน Base Score นั่นเอง …
เชื่อไหมครับว่า บางคนที่พื้นฐานค่อนข้างดี แต่ทำไมคะแนนวนไปวนมา ไม่ขึ้นตามใจหวังซักที พอมาวิเคราะห์กันจริงๆ กลับผิดในข้อ Base Score ที่ไม่ควรพลาด แต่กลับได้คะแนนในส่วนข้อยาก เพราะอะไรครับ เพราะทำโจทย์มาเยอะ ทำให้จำลูกเล่นเหล่านั้นได้ ดังนั้น … อยากให้อดทนกับระบบการฝึกเพื่อสร้าง Base Score ให้ได้ และเมื่อทำโจทย์ในระดับที่ยากขึ้น ก็เก็บลูกเล่นเหล่านั้นไว้เพิ่มเป็นคะแนน Bonus ให้กับตัวเอง แบบนี้น่าจะดีกว่านะครับ ^^