TRUSTED BY 
10,000+ Students
10+ Leading Organizations & Universities
TRUSTED BY 
10,000+ Students
10+ Leading Organizations & Universities
TRUSTED BY 
10,000+ Students
10+ Leading Organizations & Universities

MENU TOEIC Listening

ENG ME UP CHANNEL

Share :

Chapter 42

Conversations & Talks ฟังยาวๆ แล้วไง … ใครแคร์? (Part 2)

     ใน Part I เราวง keyword ของโจทย์คำถามให้เยอะที่สุดเก็บสะสมไว้ ตั้งแต่ก่อนเริ่มทำ Part I Photograph แล้วใช่ไหมครับ ทีนี้เรามาดูว่าใน 3 ข้อคำถามเนี่ย เราต้องเจอกับคำถามแบบไหนบ้าง แล้ว Choice ลวงมีมากเหมือน Part 2 Question – Response หรือไม่ บทความนี้จะพามาพบกับกฎทอง 7 ข้อ ฝึกให้ได้ตาม Loop นี้ รับรองคะแนนสูงลิ่วอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

     ส่วนการฟังที่ยาวขึ้นใน Conversation & Talks ความยากทั้งในส่วน speed/ accent/ vocabulary range ไม่ต่างจากเดิมเลยครับ ส่วนสำคัญคือ สมาธิ ดังนั้นเราต้องมีวิธีจดจ่อและเพิ่ม Concentration ให้สูงที่สุด

     ในบทความก่อน เราวง keyword ของโจทย์คำถามให้เยอะที่สุดเก็บสะสมไว้ ก่อนเริ่มทำ Photograph แล้วใช่ไหมครับ ทีนี้เรามาดูว่าใน 3 ข้อคำถามเนี่ย เราต้องเจอกับคำถามแบบไหนบ้าง อาจารย์โจแบ่งง่ายๆ เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ เลย

1. คำถาม Detail

     คำถามแบบนี้ ตอนเรานั่งวง keyword เราก็ดูออกแล้ว จริงไหมครับ พวกนี้ก็จะเป็นการถามเจาะลงในรายละเอียดในบทสนทนานั่นเอง

     ซึ่ง ……. ความลับกำลังจะเปิดเผย …. มด 3 ตัว …. นั่นๆ ไม่เก็ทมุกใช่ป่ะ มด ภาษาอังกฤษคือไร ant … 3 ตัว ก็ แอ่น แอน แอ๊น ไง (ขอความกรุณาขำไปตามกันนิสนึง) คือโจทย์มักจะเรียงตาม Order ครับ คือข้อที่เป็นรายละเอียดเนี่ย สิ่งที่เราได้ยินก็จะตอบตามลงไปเรื่อยๆ ซึ่งเทคนิคการตัด Choice ส่วนนี้ จะต่างกับการ Sound-Alike Trap ใน Question – Response นะครับ คือได้ยินอะไรก็เป็นแบบนั้นแหละ ไม่ค่อยหลอกอะไรมามากมายละ

2. คำถาม Big Picture

คำถามแบบนี้ก็อย่างเช่น

2.1) Main Idea (What is this conversation primarily discussed?)
2.2) Purpose
2.3) Occupation
2.4) Location (Where does this conversation take place?)

     คำถามประเภทนี้ เอาไว้พอเราทำข้อที่เป็น Detail ครบ มันก็จะปรากฎชัดเจนเองแหละครับ เรียกว่า เป็นคำถาม ที่ควรฟังให้จบก่อน หรือมีภาพใหญ่ในหัวก่อนตัดสินใจเลือกนั่นเอง

     เห็นไหมครับ ว่า Listening Part ไม่ใช่แค่เข้าไปฟังๆ ชิวๆ อย่างเดียว นอกเสียจากว่า คุณมีทักษะการฟังที่ดีมาก มีความจำที่ดี และที่สำคัญคุณมีสมาธิจดจ่อไม่หลุดเลยตลอดการฟังกว่า 1 ชั่วโมง ถ้าคุณมีคุณสมบัติครบก็แสดงความยินดีด้วยครับ คุณได้ไปต่อ เอ้ย ผิดๆ … ทุกๆ คนมีสิทธิ์ไปต่อทั้งนั้นแหละครับ แค่ต้องฝึกฝน ฝึกอย่างมีกลยุทธ์ สำหรับ 2 Parts นี้ อาจารย์โจฝากกฎทองที่จะช่วยเพิ่ม Concentration ให้กับเราขณะทำข้อสอบได้อย่างมาก ซึ่งข้อสอบ TOEIC ใจดีเหลือเกิน พิมพ์ให้เรามาหมดทั้งคำถามและคำตอบ กราบงามๆ 3 ครั้ง น้ำตาไหลซาบซึ้งกันไป

1) ก่อนเริ่มฟังแต่ละชุด Conversation/ Talk ต้องอ่านคำถามได้ครบและพยายามจำให้ได้ ทั้ง 3 ข้อ

2) หากอ่าน Choice เก็บไว้ได้ด้วย ก็ยิ่งดี เนื่องจากเราจะพอเห็นภาพรวมของเรื่องตั้งแต่ยังไม่เริ่มฟังด้วยซ้ำ

3) ในขณะที่ฟัง Conversation/ Talk หากพบ choice ที่น่าจะถูกที่สุดให้ติ๊กเอาไว้

4) เมื่อฟัง Conversation/ Talk จบ เราควรได้คำตอบสำหรับโจทย์ที่ถาม Detail ได้ครบ ถ้าไม่ได้ต้องยอมรับในความจริงแล้วรีบเดาซะ

5) รีบตอบคำถามโจทย์ถามภาพใหญ่

6) ในขณะที่ Conversation/ Talk จบ เขาจะเริ่มอ่านคำถามมาทีละข้อ เราไม่ต้องไปสนใจแล้ว เพราะมันพิมพ์ให้เราอยู่แล้วหนิ ให้เราถือโอกาสนี้ทำการฝนในกระดาษคำตอบซะ (ถ้าเขาอ่านคำถามข้อ 2 มาแล้ว ยังฝนไม่เสร็จ พอๆ ปล่อยก่อน ไปดู 3 ข้อถัดมาก่อน แล้วค่อยมาฝนทีหลังนะครับ)

7) รีบดูโจทย์และ Choice ใน 3 ข้อถัดไป

     กฎทอง 7 ข้อนี้ต้องฝึกให้เป็น Loop ให้ชิน และฝึกข้อสอบเป็นชุดตามแบบจริงนะครับ เพราะถ้าเราทำชุดเล็กๆ สมาธิเราอาจยังดีอยู่ พอเจอของจริงๆ ฟังรวดเดียว 100 ข้อ 1 ชั่วโมง บางที สติหลุดไปบ้างก็มี ดังนั้น นอกจากทักษะการฟัง การเข้าใจโจทย์ การเตรียมตัวก่อนฟังแล้ว สมาธิจดจ่อก็สำคัญไม่แพ้กันนะครับ

How to Use ENG ME UP Blog

Play Video

เนื่องจากเนื้อหา “Mini Book” เตรียมสอบ TOEIC มีความต่อเนื่องกัน อาจารย์แนะนำให้ศึกษาตามลำดับ โดยเริ่มจาก Chapter 1
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดครับ

เนื่องจากเนื้อหา “Mini Book” เตรียมสอบ TOEIC มีความต่อเนื่องกัน อาจารย์แนะนำให้ศึกษาตามลำดับ โดยเริ่มจาก Chapter 1
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดครับ