Mini Chapter 24
Monologue 3-5 นาทีที่แสนจะท้อ?
ยาก ยาว สิ่งที่ฟังก็ค่อนข้างทางการ แต่ 6 ข้อเอง อย่าเพิ่งท้อสิ บางคนกลัวมากๆกับข้อสอบฟังยาวๆเป็นชุดจากการพูดของคนๆเดียว ยิ่งเป็นพวกบทความเชิงวิชาการด้วยแล้ว คำศัพท์ก็จัดเต็มมาอีก ฟังไป ท้อไป สุดท้ายปลงและเดา
อันที่จริง Part นี้ ได้คะแนนง่ายกว่าที่คุณคิดนะ แค่ตั้งสติดีๆ มีกลยุทธ์การฟัง โฟกัสให้ดี คำถามก็มี Pattern ชัดเจนสุดๆ … เผลอๆ จะเป็นตัวเก็บคะแนนไป
หลายคนเกลียดกลัว Monologue มากๆ เพราะฟังยาวครับ ทีนี้ตามชื่อเลย Mono คือ 1 ดังนั้นจะมีคนเพียง 1 คน มาพูดให้เราฟัง ซึ่งก็แน่นอนครับ เป็นเหมือนการอ่าน Article ให้เราฟัง ซึ่งค่อนข้างวิชาการทีเดียว
อย่างไรก็ตาม เราพอจะกำหนดกลยุทธ์การฟัง จากประเภทของบทความที่ออกข้อสอบบ่อยๆ ได้ครับ
อาจารย์โจขอแถมให้เต็มๆ เลย 1 ประเภท คือการฟังแนว Research ครับ ซึ่งเจอบ่อยสุดแล้วล่ะ พร้อมยังๆ ก่อนอื่นเลยอาจารย์โจขอให้ลองฟังและตอบคำถามด้วยตัวเองดูก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวค่อยมาดูวิธี Focus กันในเฉลยครับ
25.
- Born losers theory
- Adverse life events in society
- Unlucky men and their relatives
- Depressed people in the real world
26.
- They create their own lifestyles.
- They report more negative events in their lives.
- They have a tendency to confuse their relatives.
- They receive sympathy from people around them.
27.
- People always induce their own problems.
- People with bad luck cannot cope with their problems.
- The depress people’s relatives also had more adverse experiences.
- Depressed people and their relatives have an ability to solve the problems.
หลังจากลองฟังไปเรียบร้อยแล้ว … ปัญหาที่หลายคนพบหลักๆ เลย คือ
- ยาวมาก
- ศัพท์ก็ยาก
- ฟังไม่ทัน
- งง ไม่รู้เรื่องเลย
- ช่างมันละ เดาดีกว่า
ไม่แปลกครับ เมื่อก่อนอาจารย์โจก็เกลียด Part นี้มาก คือสมาธิสั้น ฟังยาวๆ แบบไม่มีอะไรมาคั่นแบบนี้ ไม่รู้ทำไงดี ไม่รู้โฟกัสตรงไหน ยิ่งฟังยิ่งหลุด
เราลองมาสรุปปัญหากันดีกว่า และเมื่อเราเข้าใจการออกข้อสอบ การตั้งคำถาม หรือการวาง Choice แล้วล่ะก็ จะพบว่ามันหมูขึ้นเยอะนะ เผลอๆ Part นี้ที่เคยเกลียดกลัวจะทำได้ดีจนน่าตกใจซะด้วยซ้ำ
หลังจากที่เราพอจะรู้ว่าควรโฟกัสการฟังยังไงไปแล้ว เราลองมาฟังกันอีกครั้งนะครับ รอบที่สองอาจารย์อยากให้ทุกคนดู Script ควบคู่ไปกับการฟังอย่างตั้งใจ
สิ่งที่อาจารย์โจอยากให้ฝึกคือ ลองแบ่งประโยคดูให้ดีครับ เหมือนที่อธิบายในคลิปว่าอย่าเพิ่งท้อถ้าฟังไม่รู้เรื่อง เพราะเราตั้งหลักใหม่ได้ทุกครั้งเมื่อขึ้นประโยคใหม่ โดยธรรมชาติต่อให้ไม่ได้เปลี่ยนเสียงคนพูดเหมือนเวลาฟัง Conversation แต่คนพูดก็ต้องพักหายใจ โดยเฉพาะก่อนขึ้นประโยคใหม่ ก็ให้เราอาศัยจังหวะนั้นแหละเพื่อตั้งหลัก แล้วเมื่อขึ้นประโยคใหม่เราก็จะฟังชัดช่วงนึงใช่ป่ะ (ช่วงต้นๆ หลังจากเราตั้งหลักมาใหม่) หลังจากนั้นก็จะเลือนๆ อีก
… แต่ก็ไม่ต้องกังวลครับ เพราะคำถามมักอยู่ตอนต้นๆ โดยเฉพาะเมื่อเจอ Key Verbs ที่อาจารย์กล่าวไว้ใน Clip ดังนั้นเวลาฟังอีกรอบ ก็ให้พยายามกั้นประโยคและจับ Key Verbs เพื่อช่วย Focus การฟังและเข้าใจ pattern การแต่งโจทย์ของ Part นี้ไปในตัว
เห็นไหมครับ ถ้าเราเข้าใจถึงแก่นการออกข้อสอบ ว่าในแต่ละ Part เขามีจุดประสงค์อย่างไร ต้องการทดสอบอะไรเราบ้าง มีกระบวนการคิดในการออกข้อสอบ การตั้งคำถาม การวาง Trap การวาง Choice ต่างๆ อย่างไร เราก็มีโอกาสในการทำคะแนนได้ดีและฟังแบบ Focus ได้มากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องฟังออกทุกคำครับ
อย่างใน Monologue … Pattern ที่อาจารย์โจนำมาให้ฝึกฝนในห้องเรียน ก็จะมีครบทุกประเภทครับ อาทิ Informative/ Modern/ etc. (นอกเหนือจากแนว Research ซึ่งออกบ่อยสุด ตามที่ยกตัวอย่างไป) ซึ่งแน่นอนว่า จะมีเทคนิคที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้เพื่อให้เรา Focus ได้แม่นยำและประหยัดแรงที่สุดในการฟังอะไรยาวๆ แบบนี้ครับ