TRUSTED BY 
10,000+ Students
10+ Leading Organizations & Universities
TRUSTED BY 
10,000+ Students
10+ Leading Organizations & Universities
TRUSTED BY 
10,000+ Students
10+ Leading Organizations & Universities

CU-TEP Writing

ENG ME UP CHANNEL

MENU CUTEP Listening

Previous slide
Next slide

Share :

Mini Chapter 22

Short Conversation ในข้อสอบ CU-TEP
ฟังสั้นๆ แต่เต็มไปด้วยเขี้ยวเล็บ

     ฟังสั้นๆ 15 จาก 30 ข้อ คนนึงเอ่ยคนนึงตอบ คนนึงผู้หญิง คนนึงผู้ชาย ดูจะไม่มีอะไร เพราะฟังสั้นๆ … แต่ถ้าฟังตรงๆ ตอบตรงๆ คงไม่ใช่ระดับ CU-TEP ที่ต้องการวัดความเข้าใจระดับลึกและเจตนาการสื่อสารที่แท้จริงภายใต้โครงสร้างทางไวยากรณ์ ดังนั้นลูกเล่นมาตรึม ไม่ว่าจะเป็นตอบไม่ตรงคำถาม เล่นสำนวน หรือ เล่น Grammar … Chapter นี้ จะช่วยให้เราเตรียมตัวและ Focus การฟังได้อย่างถูกจุด

     คืองี้ครับ ในส่วนของ Short Conversation จะมีคนนึงพูดชงมาและคนที่สองพูดตบเรื่องไป ดูเหมอืนจะง่ายนะครับ เพราะฟังประโยคที่ค่อนข้างสั้น แต่เอาความสั้นนี่แหละที่ทำพิษ เรามักจะได้ความรู้สึกนี้ตอนฟังครับ “เห้ย! อะไรเนี่ย จบแล้วหรอ ยังไม่ทันฟังรู้เรื่องเลย” แล้วเราก็จะไปนั่งอ่าน Choice กำลังคิดว่าจะเลือก Choice ข้อไหนดี เสียงพูดในโจทย์ข้อต่อไปก็ขึ้นมาแล้ว … โอ๊ย พังต่อเนื่องเลยทีนี้

     ดังนั้น Short Conversation ต้องอาศัยสมาธิและการ Focus ให้แคบที่สุดตั้งแต่ก่อนเริ่มฟัง พูดง่ายๆ คือคุณต้องมี idea อยู่ในหัว ตั้งแต่ก่อนเริ่มฟังแล้วครับ และพอฟังจบจะตอบได้ทันที ถ้าฟังไม่รู้เรื่องก็ต้องยอมรับและเตรียมข้อต่อไปครับ

คลิกที่รูปเพื่อชมคลิป
จะเตรียมตัวยังไงดีล่ะ แค่ฟังอย่างเดียวก็แย่แล้ว

Short Conversation จะมี Pattern ค่อนข้างชัดเจน
คือเราแค่เห็นลักษณะการวาง Choice
เราจะรู้ทันทีว่าข้อนี้เค้าจะถามอะไร และเตรียมตัวล่วงหน้าได้เลย

     อาจารย์โจคงแตะประเภทใหญ่ๆ ของคำถามให้นิดนึงนะครับ คือคำถามแบบง่าย กับแบบยาก (ส่วนรายละเอียดทั้งหมดเอาไว้เจอกันในคอร์สรับรองผลครับ)

1. แบบง่าย 

แบบนี้บังคับว่าห้ามเสียคะแนน มันคือคำถามที่ถามภาพใหญ่ๆนั่นเองครับ เช่น

  • Scene (เรื่องนี้เกิดที่ไหน)
  • Character (ใครพูดกับใคร หรือผู้หญิงเป็นใคร ผู้ชายเป็นใคร …. เขาจะแบ่งเป็นเสียงผู้ชาย 1 คน กับเสียงผู้หญิงอีก 1 คนชัดเจนครับในแต่ละข้อ)
  • Feeling คือความรู้สึกของตัวละคร ซึ่งตรงนี้แจกแต้มนะคับ เน้นฟังน้ำเสียงก็พอรู้แล้วครับ แค่มีสติดีๆ ว่าเค้าถามผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่

ระวัง!
     แม้ลักษณะคำถามประเภทนี้จะไม่ยาก คือฟังพลาดบางตอนก็ยังพอจับภาพรวมได้ แต่ให้ระลึกไว้เสมอครับว่า ถ้าเราจับคำเดียวแล้วเอาคำนั้นมาเลือก Choice เลย มีโอกาสโดนหลอกสูงครับ เพราะผู้ออกข้อสอบก็จะเอาคำที่เราได้ยินแต่ละคำนี่แหละมาแต่ง Choice

     ดังนั้นคำถามประเภทนี้ เราควร Connect the dots หรือจับคำมากกว่า 1 คำ มาประกอบเรื่องจะชัวร์กว่าครับ

2. แบบยาก 

คือ ให้ตีความครับ โดยมักจะชอบให้ตีความจากคนที่สองว่าเขาหมายความว่าอย่างไร ต้องการสื่อว่าอย่างไร คือถามเจตนาการสื่อสารนั่นเอง ดังนั้น Choice ของคำถามประเภทนี้ก็จะเป็นประโยคที่มีความหมายตากต่างกัน และแน่นอนว่าข้อสอบ CU-TEP ซะอย่าง คนที่ 2 เนี่ย ก็มักตอบไม่ค่อยตรงคำถามหรอกครับ เช่น

A: Did you see Pete’s mother at the party?
คุณเจอแม่ของพีทที่งานปาร์ตี้ไหม
B: Actually, I saw his mother and father.
อันที่จริงชั้นเจอทั้งพ่อและแม่ของเค้าเลยล่ะ

ก็อาจจะต้องตอบแนว She didn’t expect to see Pete’s father. คือ ไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอพ่อของพีท (ส่วนแม่น่ะเจอแน่นอน)

     นอกจากนั้นเราอาจจะพบลูกเล่นด้วยการให้คนที่ 2 ตอบออกมาเป็น Idiom หรือโครงสร้าง Grammar ที่ต้องตีความ ดังที่อาจารย์โจได้แจก Input ไปก่อนหน้านี้ (Chapter 26) แล้วนะครับ

     .. ดังนั้นระลึกไว้เสมอเลยนะครับ ว่าเราไม่ควรเลือก Choice ที่เหมือนหรือค่อนข้างตรงกับที่เราได้ยิน ยิ่งเหมือนเท่าไหร่ยิ่งอันตรายเท่านั้น เพราะนั่นจะเป็น Choice หลอกนั่นเอง

     ห้ามใจตัวเองเข้าไว้ คิดแบบนี้ครับว่าถ้าเค้าให้ตอบตรงเหมือนที่เราได้ยิน ก็คงง่ายเกินกับระดับข้อสอบที่วัดระดับและเตรียมผู้สอบเพื่อเข้าเรียนต่อในระดับสูงอย่าง CU-TEP

คลิกที่รูปเพื่อชมคลิป
ตัวอย่างโจทย์ที่มาพร้อมกับลูกเล่นสำนวนและการวาง choice หลอก

A: Do you need help with your lab project?
B: Don’t bother. It’s a piece of cake.

     1. He needs help with cooking.
     2. He thinks the project is easy.
     3. He would like something to eat.
     4. He does not want to be disturbed.

     โดยธรรมชาติของคน เวลาฟังไม่ค่อยได้ ก็มักจะเอาคำที่ได้ยินชัดๆ มาตอบอยู่แล้วล่ะ ดังนั้น การตั้ง Choice จึงหลอกจากส่วนนั้น

  • ข้อ 1 มีคำว่า need help ซึ่งเสียงจะชัด เพราะเป็น Verb แท้ของประโยค แต่สุดท้ายกลายเป็น Choice ที่ผิดด้วยการเอาคำว่า Cooking มาใส่ หลังจากที่เราได้ยินคำว่า cake ใน conversation
  • ข้อ 2 เป็นข้อที่ถูก Piece of cake คือฝรั่งเขาคิดว่าแค่เค้กชิ้นเดียว กินหมดสบาย จึงแปลว่า ง่ายมากๆ
  • ข้อ 3 ก็ยังจับคำที่ได้ยินชัดๆ คือ cake ก็เลยเอาเรื่องกินมาล่อซะเลย
  • ข้อ 4 ข้อนี้คนตอบเยอะครับ ดูเหมือนเข้าเค้าดีหนิ ก็เราได้ยินว่า Don’t bother แล้วก็เคยท่องมาด้วยว่า “bother” แปลว่า ยุ่ง รบกวน … จึงแปลเลยครับว่า “อย่ายุ่ง” จึงเลือกข้อนี้ แต่จริงๆแล้ว Don’t bother ไม่ได้แปลแง่ลบขนาดนั้นครับ โดย sense ภาษาอังกฤษจะเป็นแค่แนวๆ It’s ok หรือ ไม่เป็นไร นั่นเองครับ (ดูจาก Everyday Expression ที่อาจารย์รวบรวมให้และแจกใน Chapter 18 ได้เลยครับ)

How to Use ENG ME UP Blog

Play Video

เนื่องจากเนื้อหา “Mini Book” เตรียมสอบ CU-TEP มีความต่อเนื่องกัน อาจารย์แนะนำให้ศึกษาตามลำดับ โดยเริ่มจาก Chapter 1
เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดครับ

เนื่องจากเนื้อหา “Mini Book” เตรียมสอบ CU-TEP มีความต่อเนื่องกัน อาจารย์แนะนำให้ศึกษาตามลำดับ โดยเริ่มจาก Chapter 1 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดครับ